เที่ยวน่าน Day3 – บ้านจักษ์กะพัฒน์ ก๋วยเตี๋ยวคุณหลิ่ง ดอยสกาด 1715 นอนสะปัน

เช้าวันที่ 3 ของการมาเที่ยวน่าน เราตื่นกันมาสูดอากาศที่ ดอยสกาด และจะมุ่งหน้าสู่ “สะปัน” เพื่อพักผ่อนในหุบเขาที่เงียบสงบ และใกล้ชิดกับธรรมชาติไม่แพ้ที่ปัว หรือสกาดเลยล่ะ

DAY3 : สกาดคอฟฟี่ > บ้านจักษ์กะพัฒน์ > ก๋วยเตี๋ยวคุณหลิ่ง > จุดชมวิว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 1715 > ดอยอิงดาว at ดงพญา สะปัน

ตัวอย่างแพลนเที่ยวน่าน วันที่สาม (09/08/2020)
ตัวอย่างแพลนเที่ยวน่าน วันที่สาม (09/08/2020)
บ้านจักษ์กะพัฒน์ ดอยสกาด
บ้านจักษ์กะพัฒน์ ดอยสกาด

อรุณสวัสดิ์เช้าวันนี้ เราตื่นขึ้นมาที่ “สกาดคอฟฟี่” ที่พักดอยสกาด หลังจากที่กินข้าวเช้า และทำอะไรกันเสร็จแล้ว ทางที่พักบอกพวกเราว่า ถ้าอยากเดินเที่ยวเล่นบ้านพักต่าง ๆ แนะนำให้ไป บ้านจักษ์กะพัฒน์ เพราะจะได้วิวมุมอื่น ๆ นอกจากมุมฝั่งสกาดคอฟฟี่บ้าง เพราะหากเดินไป สกาดดีโฮมสเตย์ ก็จะเห็นวิวมุมเดียวกัน เลยแนะนำให้เดินมาเที่ยว ชมวิวอีกมุมมากกว่า ซึ่งพวกเราก็เดินย้อนกันขึ้นมาประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอซอยสำหรับให้เดินขึ้นไป ซึ่งซอยนี้ก็จะมีบ้านพักโฮมสเตย์อยู่ด้วยกัน 3 แห่ง นั่นก็คือ ลุงหมานโฮมสเตย์ บ้านต้นเมี่ยง และ บ้านจักษ์กะพัฒน์ นั่นเอง (อ่านรีวิว เที่ยวตัวเมืองน่าน เที่ยวปัว DAY1 และ DAY2)


บ้านจักษ์กะพัฒน์

บ้านจักษ์กะพัฒน์ เป็นโฮมสเตย์ของน้องชายฝาแฝด ที่เป็นเจ้าของ สกาดดีโฮมสเตย์ ชื่อดังของ ดอยสกาด โดยที่นี่เปิดเป็นทั้งโฮมสเตย์ และ ร้านกาแฟ แต่ที่เด่นที่สุดจะเป็นในส่วนของ ชา และกาแฟ ที่มีไร่กาแฟจักษ์กะพัฒน์ เป็นของตัวเองอีกด้วยนะ

บริเวณภายในร้านกาแฟ ก็จะติดกับบริเวณห้องพัก แต่จะมีการแยกส่วนกัน โดยลักษณะของที่นี่จะเป็นไม้ทั้งหมด ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ และอบอุ่น

วิวบ้านจักษ์กะพัฒน์ ที่พักดอยสกาด
วิวบ้านจักษ์กะพัฒน์ ที่พักดอยสกาด

อีกหนึ่งจุดเด่นของ บ้านจักษ์กะพัฒน์ นั่นก็คือ Service mind เราจะได้รับความรู้สึกเหมือน เพื่อน ญาติพี่น้อง ที่มาเยี่ยมเยือน เราแค่เข้ามานั่งกินชาไม่นาน เรายังสัมผัสได้ถึงความเป็นกันเอง ความธรรมชาติของทั้งวิว และเจ้าของ ชายทั้งสองผู้รักและหลงไหลในการทำกาแฟ ว่าแต่คนไหน “จักษ์” คนไหน “พัฒน์”

เค้าดูให้ความใส่ใจในทุกขั้นตอนการทำกาแฟ และภูมิใจในเมล็ดกาแฟ คือจะไม่ยอมให้คนที่มาพักทำเองเลย เพราะกลัวเอาไปทำเองแล้วไม่อร่อย 5555

วิธีทำกาแฟดิปที่จักษ์กะพัฒน์นำเสนอ (ใช้เวลาประมาณ 3.30 นาที)

  1. ล้างกระดาษดริปด้วยน้ำร้อนนิดหน่อย
  2. ใส่เมล็ดกาแฟที่บดเสร็จแล้ว ค่อย ๆ รินน้ำร้อนพอชุ่ม แล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที
  3. ค่อย ๆ รินน้ำร้อนแล้วพัก แบบนี้ไปสักประมาณ 3-4 รอบ เพื่อเป็นการควบคุมน้ำไม่ให้น้ำไหลแรงมากเกินไป เพราะถ้าปล่อยให้อยู่กับน้ำที่ร้อนเกินไปนาน ๆ กาแฟก็จะขมขึ้น
  4. หลังจากรินเสร็จก็ไปเทมา เพื่อให้กาแฟผสมกันลงตัว เพราะตอนแรกยังมีการแบ่งชั้นกันอยู่

จบด้วยคำที่เค้าบอกว่า “อร่อยหรือเปล่าไม่รู้นะ ลีลาไปงั้นแหละ” ถ้าได้มาพักที่นี่ คงนั่งหัวเราะไม่หยุด อิหยังวะ 55555555555555

ที่เราสั่งก็จะมี ชาชมพูร้อน คือ ชาใบเมี่ยง (ชาดำ) ที่ปลูกบนที่ราบสูง ด้วยการปลูกแบบออร์แกนิก ชาหอมดีมาก ๆ เข้ม ๆ มีความนวล ฟีลเหมือนกินน้ำเปล่าที่ใส่น้ำยาอุทัย แต่กลิ่นไม่ได้โดดไปทางนั้น กลิ่นชาหอม ๆ จริง ๆ แนะนำเลยนะอยากให้ลอง ส่วนอีกแก้ว โกโก้เย็น เข้มข้นดี ไม่หวานเกินไป

พร้อมด้วย ซาลาเปา และ ขนมปังเนยนม มานั่งกินเล่นชมวิวกันเพลิน ๆ ไปเลย มื้อนี้ทั้งหมด 149 บาท เท่านั้นนนน คุณภาพ และวิวรอบ ๆ ดอยสกาด นี่เกินราคาจริง ๆ

นี่คือวิวจากมุมที่นั่งกินกาแฟ ถ้ามีหมอกก็คงจะดีนะ

มุมถ่ายรูป บ้านจักษ์กะพัฒน์ สกาด อำเภอปัว จังหวัดน่าน

 “บ้านจักษ์กะพัฒน์” ถือเป็นอีกหนึ่งที่พัก และ ร้านกาแฟ ยอดฮิต ประจำดอยสกาดเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยความที่บ้านสวย วิวดี เจ้าของขี้เล่น เป็นกันเอง และยังมีเมล็ดกาแฟ ใบชา ทำเป็นแพคเกจ ที่สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วยนะ

  • พิกัด : 19.2633498,100.997531
  • Facebook : บ้านจักษ์กะพัฒน์
  • เวลาเปิดปิดร้านกาแฟ : 08:00 – 17:00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 096-720-6902 (สำหรับโทรไปเช็คก่อนว่าร้านเปิดไหม จะได้ไม่เสียเที่ยว)

ก๋วยเตี๋ยวคุณหลิ่ง ดอยสกาด (ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา)

ก๋วยเตี๋ยวคุณหลิ่ง อำเภอปัว จังหวัดน่าน

หลังจากที่ออกมาจากที่พักสกาดคอฟฟี่ เราขับขึ้นเนินเขาขึ้นมาอีกหน่อย เพื่อมากินก๋วยเตี๋ยวธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นก๋วยเตี๋ยวห้อยขา รับลมชมวิว จะเป็นยังไงต้องดู!!

ก๋วยเตี๋ยวคุณหลิ่ง ดอยสกาด
ก๋วยเตี๋ยวคุณหลิ่ง อำเภอปัว จังหวัดน่าน

บอกเลยว่า ทีเด็ดของก๋วยเตี๋ยวทุกจาน อยู่ที่กากหมูถังนี้ อร่อยมากเว่อออออออ !!!

เดินขึ้นเรือนกันสักหน่อยจ้าแม่!!

พอเดินขึ้นมา ก็จะเจอกับโต๊ะไม้ ที่หันหน้าออกไปสู่วิวภูเขากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา บรรยากาศดีมากกกก

ร้านอาหารวิวธรรมชาติ ปัว สกาด น่าน
ร้านอาหารวิวธรรมชาติ ปัว สกาด น่าน

ก๋วยเตี๋ยวคุณหลิ่ง (ชามละ 50 บาท) เราสั่งก๋วยเตี๋ยวต้มยำกันมา เค้าปรุงได้ครบรสดีนะ คือเราไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มอีกเลย แล้วทีเด็ดคือกากหมูที่โรยมาให้เนี่ยแหละ อร่อยมากกกกก ไม่คิดว่าจะอร่อยขนาดนี้ ฮ่า ๆ ราคาห้าสิบ แต่วิวห้าล้านนนน มันดีกว่าที่คิด มันดีต่อหัวใจ


จุดชมวิว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 1715

“อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 1715” เป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบรูณ์แห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน ซึ่งจะมีอากาศบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี เป็นลักษณะเทือกเขาสลับซับซ้อน ซึ่งในฤดูฝนและฤดูหนาวนั้น จะมีเมฆปกคลุมอยู่บริเวณยอดดอยภูคา และอย่างที่บอกเอาไว้ตอนแรกว่า “ดอยภูคา” มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์เป็นอย่างมาก เพราะมีความอุดมสมบรูณ์ ทั้งพืชพรรณ และ สัตว์ป่า อีกทั้งยังเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำที่สำคัญของจังหวัดน่านหลายสาย นั่นก็คือ แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว ลำน้ำว้า เป็นต้น

เมื่อเดินทางจาก ดอยสกาด มาถึงยังจุดชมวิว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 1715 เราก็จะเห็นแต่หมอก ที่ลงหนามาก ๆ แทบจะมองไม่เห็นอะไรเลยด้วยซ้ำ ซึ่งความมหัศจรรย์ของจุดชมวิว 1715 ตรงนี้นั้น จะมีหมอกหนา สลับกับ ฝนตกปรอย ๆ เป็นระยะ ๆ พร้อมกับวิวธรรมชาติ เขียวชอุ่มชุ่มชื่นหัวใจ

จุดชมวิว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน
จุดชมวิว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน

แน่นอนว่า พวกเราหยิบเสื้อกันฝนออกมา พร้อมถ่ายรูปกลางสายฝนกันสุด ๆ อย่างที่บอกไปว่า ตรงบริเวณนี้ จะมีฝนตกหยุด ๆ ตก ๆ ต่อเนื่องแบบนี้เป็นประจำ ซึ่งหลังจากฝนหยุด ก็จะมีหมอกปกคลุมทันที หมอกลงหนาแบบที่แทบมองไม่เห็นทาง ไม่เห็นวิว เห็นแต่คนที่อยู่ตรงหน้า ฮิ้ววว

อากาศสดชื่นมาก ๆ สูดอากาศอันบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด อยากเก็บอากาศแบบนี้กลับไปฝากคนที่กรุงเทพฯ จังเลย

“จุดชมวิว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 1715” จะอยู่คนละบริเวณกับ “อุทยานแห่งชาติดอยภูคา” นะคะ หากใครต้องการจองบ้านพักอุทยานเเห่งชาติดอยภูคานั้น สามารถจองล่วงหน้าได้ 60 วัน กันที่เว็ปไซต์นี้ http://nps.dnp.go.th/parks.php หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดที่ 082-194-1349

 


สะปัน ธรรมชาติใกล้ตัวเรา

หลังจากที่เราออกจากจุดชมวิว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 1715 แล้วนั้น เราก็มุ่งหน้าขับขึ้นไป สะปัน” เพื่อจะไปพักกันที่ ดอยอิงดาว ที่อยู่ในหมู่บ้านสะปัน นั่นเอง ซึ่งในระหว่างการเดินทางนั้น เราก็จะเจอกับน้องแพะทั้งหลาย ที่ออกมาวิ่งกันบนท้องถนน โปรดระมัดระวัง และขับรถกันช้า ๆ เพราะเรามาเที่ยวบ้านเค้า เราก็ต้องดูแลกันและกันนะคะ 🙂

เมื่อเราเข้ามาในบริเวณหมู่บ้าน สะปัน แล้วนั้น เราก็จะพบกับจุดกางเต้นท์ สำหรับสายแบคแพคลุย ๆ อยู่ต้อนรับ โดยฉากหลังเป็นภูเขาสูงใหญ่ สลับซับซ้อน วิวธรรมชาติอยู่ตรงหน้า เรียกได้ว่า เห็นภูเขาชัด ๆ และใกล้มาก ๆ

หมู่บ้าน สะปัน จังหวัดน่าน
หมู่บ้าน สะปัน จังหวัดน่าน

หมู่บ้านสะปัน เป็นหมู่บ้านในฝันของใครหลายคน เพราะเป็นหมู่บ้านแห่งความเงียบสงบ เห็นวิวภูเขาที่สวยงาม และใกล้ชิดมาก ๆ เรียกได้ว่า มองไปข้างหน้า เหมือนภาพ 3 มิติ เหมือนเดินไปอีกนิดเดียว ก็ถึงตีนภูเขายังไงอย่างนั้นเลยก็ว่าได้ และค่ำคืนนี้เอง เราขอพักผ่อนนอนหลัก กันที่สะปัน ณ ดอยอิงดาว at ดงพญา


ดอยอิงดาว ณ ดงพญา สะปัน

ดอยอิงดาว ณ ดงพญา หมู่บ้านสะปัน
ดอยอิงดาว ณ ดงพญา หมู่บ้านสะปัน

บอกเลยว่า “ดอยอิงดาว” ณ สะปัน เป็นอีกหนึ่งที่พัก ที่จองยากมากแห่งหนึ่งเลยล่ะ เพราะเป็นแหล่งที่มีวิวธรรมชาติ ที่สวยงามมากเป็นอันดับต้น ๆ ของจังหวัดน่านเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังเป็นที่พักจุดที่สูงที่สุดในสะปันด้วย ทำให้มองเห็นวิวระยะไกลได้อย่างชัดเจน และสวยงามมาก

ห้องพักของเราที่ “ดอยอิงดาว” ในค่ำคืนนี้เป็นบ้านพักที่เหมาะกับกลุ่มเพื่อน ห้องนี้คืนละ 5,000 บาท จะเป็นลักษณะบ้านพัก ที่แยกตัวออกมาจากที่พักอื่น ๆ โดยจะมีที่นั่งด้านนอก บริเวณบ้าน เป็นมุมส่วนตัวที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับสังสรรค์กันในยามค่ำคืน มีที่นอนสำหรับสี่คน เป็นฟูกนอนธรรมดา ๆ และใกล้ชิดกับธรรมชาติ เห็นวิวภูเขาใกล้ชิดสุด ๆ เปิดผ้าม่านออกไป ก็เห็นวิว 180 องศา

ตรงนี้จะเป็นลานบริเวณส่วนกลางของที่พัก ดอยอิงดาว at ดงพญา ในช่วงกลางคืน เราก็มานั่งกินหมูกระทะกันที่นี่แหละ

โฉมหน้าหมูกระทะชุดละ 400 บาท ก็จะได้ประมาณนี้

คืนนี้ขอนอนหลับพักผ่อนกันที่สะปัน อ่านรีวิวที่พัก ดอยอิงดาว at ดงพญา แบบเต็ม ๆ ได้ที่นี่เลยน้า

บรรยากาศเช้าวันที่ 4 ที่สะปัน ณ ดอยอิงดาว @ดงพญา
บรรยากาศเช้าวันที่ 4 ที่สะปัน ณ ดอยอิงดาว at ดงพญา

อ่านรีวิวเที่ยวน่าน DAY1

วัดพระธาตุเขาน้อย > ร้านวันดา > วันพระธาตุแช่แห้ง > วัดภูมินทร์ > สเวนเซ่นส์ กาดน่าน > ของหวานป้านิ่ม > ซุ้มลีลาวดี > ตูบนา โฮมสเตย์ > DaiDibDaiDee ได้ดิบได้ดี


อ่านรีวิวเที่ยวน่าน DAY2

Cocoa Valley Resort > วัดศรีมงคล (วัดก๋ง) > ร้านอาหารฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ > กาแฟบ้านไทลื้อ – ลำดวนผ้าทอ > วัดภูเก็ต > สกาดคอฟฟี่