รีวิวชวนทำ ข้าวเกรียบปากหม้อ อร่อยกันยกบ้าน

ข้าวเกรียบปากหม้อ เป็นอาหารจานโปรดของเราและสมาชิกในบ้านทุกคนเลย ไม่ว่าจะเป็นอาม่า อากง พ่อแม่ โกว ลุง ป้า น้า อา พี่น้อง (เยอะไปละ 5555) เลยได้มีโอกาสทำทานกันบ่อยๆ จนต้องมารีวิวกันให้ชม พอดีใกล้ถึงวันแม่หยุดยาวปีนี้ด้วย ถ้าเพื่อนๆ คนไหนยังไม่ได้คิดเมนูว่าจะทำอะไรทานกับครอบครัวดี ขอแนะนำเมนู ข้าวเกรียบปากหม้อ สุดอร่อย รับรองว่าไม่ยุ่งยาก แถมทำกันเป็นครอบครัวสนุกดี ฝึกเรื่อยๆ สามารถทำได้ทุกคนแน่นอนคร้าบบบ

ข้าวเกรียบปากหม้อ

เริ่มกันด้วยสิ่งที่ต้องเตรียม
– กระเทียม
– น้ำมันพืช
– เครื่องปรุงรสต่างๆ เช่น น้ำปลา พริกไทย เกลือ น้ำตาล ซีอิ๊วขาว น้ำปลา รสดี ฯลฯ
– หม้อที่ขึงผ้าแล้ว สำหรับหยอดแป้ง และไม้แคระข้าวเกรียบปากหม้อ
– พริกขี้หนู ผักชี หรือผักชนิดอื่นๆ เอาไว้แก้เลี่ยน

แป้งข้าวเกรียบปากหม้อ
– แป้งข้าวเจ้า
– แป้งมันสำปะหลัง
– น้ำเปล่า
– น้ำแข็งก้อน

ไส้หน่อไม้
– หน่อไม้ต้มสับ
– กุ้งสับ

ไส้หวาน หรือที่เราเรียกกันว่าไชโป๊นั่นเอง
– ไชโป๊สับ หรือปั่น
– น้ำตาลปี๊บ
– รากผักชี
– ถั่วลิสง
– ถั่วงอกลวกพอสุก

ข้าวเกรียบปากหม้อ-01

อย่างแรกที่ต้องทำ คือ กระเทียมเจียว ทำไม่ยากเลย แกะกระเทียมออกเป็นกลีบๆ แล้วเอาไปปั่นกับเครื่องปั่น หรือจะใช้วิธีดั้งเดิม คือ สับให้ละเอียด หรือว่าเอาไปทุบในครกก็ได้นะ

ข้าวเกรียบปากหม้อ-02

ใส่น้ำมันพืช ประมาณพอท่วมกระเทียมที่เราปั่นไว้ ตั้งไฟกลางๆ (กระทะอาจดูเก่าหน่อย เพราะผ่านศึกมาเยอะ 5555)

ข้าวเกรียบปากหม้อ-03

แล้วก็ใส่กระเทียมลงไปเลย ข้อควรระวัง คือ อย่าให้น้ำมันร้อนมากนะ เพราะถ้าร้อนมาก เวลาเราใส่กระเทียมลงไปนี่ไหม้เลยแน่นอน

ข้าวเกรียบปากหม้อ-04

เจียวไปเรื่อยๆ จนกระเทียมออกสีเหลืองนิดๆ อย่าเจียวจนออกเหลืองแก่ๆ เพราะเราต้องเผื่อเวลาที่เทลงภาชนะไว้ด้วย อย่าลืมว่าตัวน้ำมันก็ยังคงร้อนอยู่ อาจทำให้กระเทียมไหม้ได้

ข้าวเกรียบปากหม้อ-05

แต่จริงๆ อันนี้กระเทียมก็เกือบไหม้แล้วล่ะ 55555 และรู้สึกว่ากระเทียมที่เจียวรอบนี้ไม่ค่อยดีด้วย เก็บไว้นานเกิ๊นนน

ข้าวเกรียบปากหม้อ-06

ต่อไปเป็นการทำไส้หวาน หรือไชโป๊ วิธีทำ คือ เราเอาไชโป๊ ไปสับ หรือไปปั่นในเครื่องปั่นเหมือนเดิมเลย แล้วเอาไชโป๊ และน้ำตาลปี๊บ ลงไปเคี่ยว

ข้าวเกรียบปากหม้อ-07

เคี่ยวจนเกือบแห้งเลย และต้องระวังคอยคนไม่ให้ไชโป๊ไหม้ด้วยนะ แล้วก็เอาถั่วงอกไปลวก เพื่อเอามาใส่กับไชโป๊ด้วย ที่จริงไส้หวานนี้ต้องเอาถั่วลิสงคั่วลงไปผัดด้วยนะ แต่นี่ไม่ได้ทำเลยไม่ได้ใส่ (ขี้เกียจว่างั้น 5555)

ข้าวเกรียบปากหม้อ-08

ขั้นต่อมาเรามาผสมแป้งสำหรับข้าวเกรียบปากหม้อกัน ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน (ไม่ใช่แป้งเรา) และน้ำเปล่า ในอัตรา 1:1:4 จ้า และให้ใส่น้ำแข็งก้อนไปด้วยเลย เพื่อจะทำให้แป้งอยู่ตัวมากขึ้น อร่อยขึ้นด้วยมั้ง 5555

ข้าวเกรียบปากหม้อ-09

ส่วนไส้หน่อไม้วิธีทำก็ง่ายๆ นำหน่อไม้สับ กุ้งแห้ง ลงไปผัดแล้วปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสต่างๆ ผัดจนหน่อไม้แห้ง ชิมสักทีสองที แล้วตักขึ้นมาพักใส่จานไว้

ข้าวเกรียบปากหม้อ-10

น้ำจิ้มนี่ก็ทำง๊ายยยง่ายยยย (คนอ่านรีวิวบอกง่ายอีกแล้วเรอะ 5555) ใส่ซีอิ๊วขาวสูตร 1 ตราเด็กอ้วนกลม แล้วก็ซอยพริกขี้หนูลงไป เพิ่มความเผ็ดร้อน แค่นี้ก็อร่อยเหาะแล้วล่ะ

ข้าวเกรียบปากหม้อ-11

ภาพถ่ายจากมุมสูง เห็นแค่นี้ก็น้ำลายไหลแล้วล่ะ เอิ๊กๆๆ

ข้าวเกรียบปากหม้อ-12

ได้เวลาทานแล้ว ตั้งไฟให้น้ำเดือดปุด ปุด ปุด

ข้าวเกรียบปากหม้อ-13

ไส้ข้าวเกรียบปากหม้อของเราในวันนี้

ข้าวเกรียบปากหม้อ-14

น้ำเดือดแล้วเทแป้งลงไปเลย กะปริมาณแป้งเอาประมาณเกือบๆ เต็มทัพพี ละเลงแป้งเป็นวงกลม วงรี วงเวียนใหญ่ ก็แล้วแต่เลย 555 เสร็จแล้วก้อย่าลืมปิดฝาหม้อให้แป้งสุก พอแป้งสุกก็จะมีเสียงน้ำหยดดัง ฉี่ฉี่ฉี่ เราก็ยกฝาหม้อขึ้น

ข้าวเกรียบปากหม้อ-15

วางไส้ลงไปตรงกลาง ถ้าเป็นไส้หวานก็อย่าลืมใส่ถั่วงอกไปด้วยนะ

ข้าวเกรียบปากหม้อ-16

ปิดแป้งทางขวาที

ข้าวเกรียบปากหม้อ-17

ทางซ้ายที

ข้าวเกรียบปากหม้อ-18

แล้วตักขึ้นมาทานได้เลย

ข้าวเกรียบปากหม้อ-19

ทานคู่กับน้ำจิ้ม และผักที่เราได้เตรียมไว้ อันนี้ไส้ไม่ได้แตกนะ แหวกไส้ให้ดูเฉยๆ

ข้าวเกรียบปากหม้อ-20

ไส้หน่อไม้กันบ้าง

ข้าวเกรียบปากหม้อ-21

ไส้คอมโบคู่

ข้าวเกรียบปากหม้อ-23

ข้าวเกรียบปากหม้อเป็นอาหารที่ต้องทานทันทีเลย ถ้าทิ้งไว้เย็น (ประมาณ 3-4 โมง) จะไม่อร่อย เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย 5555 สรุป คือ ทานตอนร้อนๆ จะอร่อยที่สุดนั่นแหละครับ

เป็นเมนูที่ทำได้ไม่ยาก แต่ต้องเสียเวลาในการเตรียมไส้ และอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ก่อนนิดนึง ยิ่งทำกันเป็นครอบครัวยิ่งสนุก ผลัดกันแคระ สร้างความสัมพันธ์ของครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง