เราขับจากที่พัก ตูบนาโฮมสเตย์ ในช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็น เพื่อจะไปกินข้าวเย็นกันที่ร้าน DaiDib DaiDee ได้ดิบได้ดี ซึ่งจริง ๆ แล้ว ที่นี้เป็นโฮมสเตย์กลางทุ่งนา และยังเปิดเป็นร้านพิซซ่าโฮมเมดที่ทำด้วยเตาถ่าน โดยทางร้านจะผลิตแป้งพิซซ่าแค่วันละ 20 ถาดเท่านั้น ก่อนที่จะเดินทางเข้ามากิน ต้องจองก่อนล่วงหน้า ถ้าหมดแล้วก็อดนะจ๊ะ ร้านเปิดตั้งแต่ 16:30 – 20:00 น.
ตอนประมาณ 5 โมง ทางร้านโทรมาหา และบอกว่าให้ขับมาจอดที่วัดดอนไชย พอมาถึงแล้วให้โทรบอก จะมีคนออกมารับที่วัด เป็นความรู้สึกตื่นเต้นปนงง ๆ ร้านจะลึกลับอะไรขนาดนี้ ฮ่า ๆ
ตอนแรกเราก็ยืนรอกันโดยที่ไม่รู้ว่าใครจะมารับ มายังไง วัดก็เป็นวัดเงียบ ๆ เปลี่ยว ๆ สักพักเราได้ยินเสียงรถขนาดใหญ่ขับตรงเข้ามาที่พวกเรา เป็นลักษณะรถไถขนาดใหญ่ ที่พ่วงด้วยกระบะหลัง ประกอบเป็นที่นั่ง VIP แบบบ้าน ๆ สามารถนั่งได้ประมาณ 6-10 คน คนที่มารับเราเป็นคุณลุงโพกผ้าขาวม้า พร้อมกล่าวว่า “ขึ้นมาเลยลูก” เป็นสัญญาณที่บอกว่า การผจญภัย เริ่มต้นขึ้นแล้ว!!
คุณลุงก็ขับพาเราเข้าทุ่งนา ระหว่างทางเป็นวิวนา สลับภูเขา พร้อมกับแสงพระอาทิตย์ตกดินกระทบกับปลายรวงข้าว สวยงาม เพลิดเพลินจนลืมความหิวไปเลย คุณลุงขับพาเรามาจอดข้าง ๆ ธารน้ำช่องเล็ก ๆ เราหันหน้ามาถามกันว่า “มึงงงง ลุงจะพาพวกเราขับรถคันนี้ ข้ามลำธารนี้ไปจริง ๆ เหรอวะ” ยังพูดไม่ทันขาดคำ ล้อหน้าก็ลงไปที่น้ำครึ่งล้อแล้ว …. โอ้แม่เจ้า!! เรากำลังจะข้ามธารที่น้ำไหลเชี่ยว และกำลังขึ้นสูงแบบนี้ ด้วยรถแทร็กเตอร์คันนี้จริง ๆ ด้วยยยยยยย
พวกเรารู้สึกตื่นเต้น และหัวเราะ เฮฮา สนุกสนาน ชอบการที่ได้ผจญภัยไปกับเหตุการณ์แปลกใหม่แบบนี้ แต่ไม่นานเสียงหัวเราะก็ได้หยุดลง กลายเป็นความเงียบ ที่ไม่รู้จะชะตาชีวิตตัวเอง เพราะล้อรถเหมือนติดกับซอกหิน และไม่สามารถไปต่อได้ ลุงพยายามเหยียบคันเร่งให้มิดแรงแค่ไหนก็หลุดออกไปไม่ได้ น้ำก็ไหลเชี่ยว และค่อย ๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งน้ำได้เริ่มไหลเข้ามาในหลังกระบะที่พวกเรานั่งกันอยู่ เหมือนรถค่อย ๆ จมลงเรื่อย ๆ (แต่จริง ๆ ไม่ได้จมนะ) วินาทีนั้นคิดอย่างเดียว เก็บของ แล้วโยนของขึ้นฝั่งซะ แต่มือนึงก็ยังถ่ายวิดิโอเก็บไว้ดูในความทรงจำอยู่นะ ฮ่า ๆ
พวกเรากึ่งขำ กึ่งกลัว คือ อีกนิดเดียวเท่านั้นที่จะขึ้นฝั่งได้ ลุงก็พยายามที่พาพวกเราหลุดพ้นซอกหินตรงนั้นให้ได้ จุด ๆ นี้ใจเริ่มเสียแล้ว วินาทีนั้นได้แต่ภาวนา ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี และในที่สุด ลุงก็พาเราข้ามผ่านช่วงเวลาวิกฤติอันเลวร้ายนั้นมาได้ ไม่รู้น้ำตาใส ๆ ที่ไหลออกทางตานั้นคือความกลัว หรือความสุขกันแน่ เกือบไม่รอดแล้วเรา ฮ่า ๆ แต่ยอมรับว่าวันนั้นน้ำแรง และไหลมาเยอะมากกว่าปกติจริง ๆ
ความงดงามที่ DaiDib DaiDee
พอเราข้ามฝั่งกันมาได้แล้ว ลุงก็พาเรามาจอดที่บ้านหลังหนึ่ง เป็นลักษณะโฮมสเตย์กลางทุ่งนา ที่ข้างหลังฉากหลังเป็นภูเขาสูงไกลสุดลูกหูลูกตา พร้อมกับหมอกควันปกคลุมสลับกับความเขียวของภูเขา และแสงตะวันตกดินที่กระทบกับทุ่งนา
พร้อมกับคุณลุงที่เดินไปจูงควายอย่างสบายใจ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ฮ่า ๆ ๆ ตอนนั้นบรรยากาศราวกับว่าอยู่ในดินแดนเทพนิยายของธรรมชาติ ที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้วจริง ๆ สวยงามกว่าในภาพจริง ๆ ไม่รู้จะบรรยายยังไงให้รู้สึกว่า สวยงามจริง ๆ
อย่างที่บอกไปตอนแรกว่า ที่เรามาที่นี่ เพื่อตั้งใจมากินพิซซ่าเตาฟืน ที่เป็นพิซซ่าโฮมเมด ที่ทำแป้งขึ้นมาเอง จำกัด 20 ถาด ต่อวัน โดยเราโทรมาจองตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว เพราะกลัวจะไม่ได้กิน จากนั้นเราค่อยมาเลือกหน้าภายหลัง จากที่มาถึงที่ร้านแล้ว ระหว่างรอพิซซ่า พวกเราก็เดินเล่น มองดูเค้าทำพิซซ่า โดยเตาขนาดใหญ่ ทำด้วยความบ้าน ๆ แต่ดูดีสุด ๆ พร้อมกับเปิดเพลงเบา ๆ กลมกลืนไปกับเสียงจิ้งหรีด
เมนูอาหารนอกจากพิซซ่าของ ได้ดิบได้ดี DaiDib DaiDee ราคาไม่แพงเลย อาหารแต่ละอย่าง เริ่มต้นที่ 50 บาท เท่านั้น ก็จะเป็นพวกอาหารกินเล่นอย่างเช่น ไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ ไส้อั่วทอด ลูกชิ้นทอด เกี๊ยวทอด ส่วนอาหารไทยก็จะเป็น ยำผักกูด ยำหมูยอ หมูมะนาว ไข่ป่าม
เสียดายที่ไม่ได้ลองสั่งอย่างอื่นนอกจากพิซซ่า เพราะคิดว่าจะไปหาอะไรกินที่ เดินถนนคนเดินปัวต่อ รับรองว่า ถ้าไปครั้งหน้า จะไม่พลาดแน่ ๆ (จะต้องมีครั้งต่อไป!!)
พิซซ่าของร้าน DaiDib DaiDee จะมีทั้งหมด 3 หน้า เราก็เลือกสามารถเลือกแบบฮาฟหน้าได้ด้วย พวกเราสั่งจองกันไป 2 ถาด โดยสั่งฮาวาเอี้ยนหนึ่งถาด และอีกหนึ่งถาดเลือกหน้าสาหร่าย (ไก่ยี) กับน้ำพริกอ่อง อย่างละครึ่งหนึ่ง
ราคาไม่แพงเลยนะ ถาดละ 150 บาทเอง ถ้าต้องการเพิ่มชีส ก็จะเป็น 180 บาท มีเมนูให้เลือกกินเล่นอีกนิดหน่อย สามารถเลือกสั่งได้เลย
พิซซ่าของ DaiDib DaiDee จะเป็นแบบบางกรอบ รสฮาวาเอี้ยนก็อร่อยแบบปกติทั่วไป หอม ๆ ส่วนพิซซ่าหน้าไก่ยีของที่นี่ จะเป็นสาหร่ายใต้น้ำทะเล ที่เป็นเหมือนฝอย ๆ อร่อยอีกเช่นกัน และ รสน้ำพริกอ่องก็เผ็ดอ่อน ๆ หอม ๆ ไม่คิดว่าจะเข้ากับพิซซ่าได้ แต่ก็ทำออกมาได้ดีมาก ๆ อร่อยเลย
ได้ดิบได้ดี ฟาร์มสเตย์
จริง ๆ แล้ว DaiDib DaiDee เปิดเป็นฟาร์มสเตย์ ที่มีที่พัก และมีกิจกรรมขี่ควาย เดินป่า เป็นแพจเกจ ซึ่งจะเน้นกิจกรรมแบบลุย ๆ ที่เป็นแบบวิถีชาวบ้าน เพื่อให้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง บอกเลยว่า ตั้งแต่ไปเที่ยวมา ที่นี่ดูเป็นที่ที่เงียบสงบมากที่สุดแล้ว ดูตัดขาดจากโลกภายนอก หลีกหนีความวุ่นวาย ทำให้จิตใจมีแต่ความสงบ ไว้ครั้งหน้าว่าจะมาลองพักที่นี่ซะหน่อย เพราะชอบอะไรแบบนี้มาก ๆ เลย โดยช่วงที่นิยมเข้าพัก คือช่วงเดือนมิถุนายน – พฤศจิกายน นั่นเอง
ค่าที่พักได้ดิบได้ดี คิดเป็นหัว (หลายราคาตามกิจกรรมที่ร่วม)
- ร่วมกิจกรรมอย่างเดียว ไม่นอน (หัวละ 500 บาท) – ขี่ควาย + นั่งเกวียน + อาหารว่าง
- นอนพักอย่างเดียว โดยไม่ร่วมกิจกรรม (หัวละ 800 บาท) – รวมอาหารเช้า – เย็น
- นอนพัก + ร่วมกิจกรรม (หัวละ 1000 บาท) – นั่งเกวียนชมทุ่ง ขี่ควาย อบตัวด้วยสมุนไพร รวมรับส่งจากตัวอำเภอปัว พร้อม อาหารเช้า-เย็น ซึ่งทั้งสามกิจกรรมนี้ ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
** กิจกรรมเพิ่มเติม อบตัวด้วยสมุนไพร คนละ 150 บาท ทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ คนละ 200 บาท (ได้ชิ้นงานที่ทำกลับไปด้วย) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจของ DaiDib DaiDee
ลักษณะที่พัก
- ที่พักเป็นกระท่อมสี่หลัง แต่ละหลังนอนได้สองคน (ไม่มีไฟฟ้า)
- บ้านหลังใหญ่ส่วนกลาง (มีไฟฟ้าแบบโซล่าเซลล์)
- Dormitory แบบนอนรวม นอนได้ แปดคน (มีไฟฟ้าแบบโซล่าเซลล์)
- ห้องน้ำ (รวม) มีสองห้อง ห้องอาบน้ำ (รวม) มีสองห้อง (ไม่มีไฟฟ้า)
สิ่งที่ต้องเตรียมมาด้วย
- ไฟฉาย (แบบคาดหัวจะดีมาก)
- พาวเวอร์แบงค์ เพราะที่เสียบปลั๊กมีจำกัด
กิจกรรมขี่ควายกลางทุ่งนา เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับคนมาพักที่นี่ ก็สามารถเลือกได้ ว่าจะขี่หรือไม่ ถ้ามาแล้วไม่ได้ลองขี่ควาย คงจะเสียดายน่าดูนะ
ลองหลับตา แล้วนึกภาพตามนะ นั่งกินพิซซ่าที่ทำจากเตาฟืนหอม ๆ บนโต๊ะเก้าอี้ไม้ไผ่เสียงเอี๊ยดอ๊าด ที่มีน้องควายเคี้ยวหญ้าอยู่ข้าง ๆ พร้อมด้วยเสียงของจิ้งหรีด กบ เขียด ที่เป็นคอรัส ท่ามกลางโฮมสเตย์ที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนาอันเขียวขจี ที่มีฉากหลังเป็นภูเขากว้างใหญ่ พร้อมกับสายหมอก และแสงของตะวันตกดิน มันช่างเป็นบรรยากาศที่โคตรมีความสุข ลืมไปเลยว่าเราเพิ่งผ่านวิกฤตกระแสน้ำหลากมาเมื่อกี้นี้
ร่ำลาได้ดิบได้ดี
ที่ชื่อ ได้ดิบได้ดี ความหมายคือ ความดิบ ความใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติแบบเรียบง่าย ใกล้ป่า เขา ลำธาร ภายใต้ แสงเดือน และ แสงตะวัน รายล้อมไปด้วยสัตว์น้อยใหญ่ เป็นที่ที่แทบไม่มีอะไรเลย เพราะเค้าไม่ได้พยายามปรับธรรมชาติให้เข้าหาเรา แต่เป็นเราต่างหาก ที่ต้องปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ ถ้าให้พูดว่า อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดของได้ดิบได้ดี นั่นก็คือ ธรรมชาติ นั่นแหละ
ไม่อยากกลับเลยจริง ๆ เป็นที่ที่โคตรเหมาะกับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย อยากใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และธรรมชาติจริง ๆ
หลังจากที่เรากินเสร็จต้องการที่จะเดินทางกลับ เพราะเริ่มมืดแล้ว แต่แล้ว ลุงก็บอกว่าเราไม่สามารถกลับผ่านไปยังทางเดินที่เรามาได้เพราะน้ำเชียวมาก ๆ แล้วก็สูงขึ้นกว่าเดิมอีก คุณป้า (ท่านจะเรียกแทนตัวเองว่าแม่) จึงพาพวกเราเดินลัดเลาะออกไปอีกทาง เป็นคันนาเดินไปเรื่อย ๆ และมาเจอกับลุง ที่สตารท์รถกระบะรอรับพวกเราอยู่แล้ว พวกเราก็ขึ้นกระบะแล้วนั่งออกมาจากท้องทุ่งนา ตัดออกมายังถนน เพื่อมุ่งหน้ามายั่งวัดดอนไชยที่เราจอดรถกันไว้ คุณลุง คุณป้า ที่นี่น่ารัก ๆ มาก ๆ ดูแลเราเหมือนเป็นลูกหลานจริง ๆ เลย เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่เราจะไม่มีวันลืมเลยล่ะ อ่านรีวิวเที่ยวน่านวันแรก หรือ รีวิวเที่ยวน่านวันที่สอง
One thought on “DaiDib DaiDee Farm Stay ได้ดิบได้ดี ขี่ควายกลางทุ่ง กินพิซซ่าเตาฟืน”