Tag Archives: ที่เที่ยวน่าน

อาโปเดอมาง (Arpo De Marng) ที่พักบ่อเกลือ ริมน้ำกลางขุนเขา

ด้วยความที่ชอบบรรยากาศของ อาโปเดอมาง (Arpo De Marng) มากจนต้องขยับโปรแกรมเที่ยว และที่พักอื่น ๆ ให้พอดีกับที่นี่ ในที่สุดเราก็ได้มาพักที่อาโปเดอมางในคืนสุดท้ายของทริปน่าน เป็นที่พักที่ตั้งอยู่ริมลำธารเล็ก ๆ สลับกับภูเขา ทำให้บรรยากาศของ Arpo De Marng ดูสมบูรณ์แบบที่สุด และเหมาะกับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง

อาโปเดอมาง
อาโปเดอมาง อ.บ่อเกลือ จ.น่าน

ห้องพักอาโปเดอมาง มีหลายแบบทั้งแบบเป็นบ้านหลังใหญ่มีห้องน้ำในตัว และแบบเต็นท์ (ไม่มีห้องน้ำในตัว)

  • เต็นท์แฝด ริมน้ำ พักได้ 4 ท่าน เริ่มต้นที่ 3,000 บาท
  • เต็นท์ริมน้ำ พักได้ 2 ท่าน เริ่มต้นที่ 1,500 บาท
  • บ้าน Standard พักได้ 2 ท่าน เริ่มต้นที่ 3,000 บาท
  • บ้าน Deluxe พักได้ 2 ท่าน เริ่มต้นที่ 3,500 บาท
  • บ้าน VIP พักได้ 2 ท่าน เริ่มต้นที่ 3,000 บาท
  • *ราคารวมอาหารเช้า และราคาที่พักขึ้นอยู่กับช่วงเทศกาล

คลิกเพื่อดูรูปแบบห้องพักทั้งหมดได้ที่นี่

อาโปเดอมาง ที่พักริมน้ำอำเภอบ่อเกลือ

ถ่ายจากสะพานหน้าที่พัก เห็นเต็นท์แฝดที่เราจองไว้อยู่ไม่ไกล ข้ามสะพานแล้วเดินไปกันเลย

ระหว่างทางเดินสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ ธรรมชาติมาก ๆ เรามาเที่ยวครั้งนี้ก็อยากลองพักหลาย ๆ แบบดู จะได้ไม่จำเจจนเกินไป มีทั้งวิวภูเขา แม่น้ำ ลำธาร

นี่คือที่พักของเราในคืนนี้ ความรู้สึกแรก คือ ทำไมมันเก่าจัง แอบเฟลนิดหน่อย เพราะเต็นท์พวกนี้ถ้าโดนความชื้นนาน ๆ เข้าก็จะขึ้นราอย่างที่เห็นในภาพ แต่ก็ถือว่ามาเอาบรรยากาศแล้วกัน อย่าไปคิดมาก เดี๋ยวจะไม่สนุก ฮ่า ๆ

bsh

เมื่อเก็บของเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินไปรอบ ๆ รีสอร์ท Arpo de Marng เพื่อถ่ายรูปบรรยากาศที่นี่ให้จุใจ ถ้าพูดเรื่องบรรยากาศ กับธรรมชาติ เราว่าที่นี่กินขาดเลยนะ ได้ทั้งเสียงน้ำจากลำธาร สายหมอกจากภูเขา เหมือนรีสอร์ทนี้ถูกล้อมด้วยภูเขาจริงๆ ทั้งด้านหลัง และด้านหน้า

ห้องพักค่อนข้างเยอะ แต่เราไม่แน่ใจว่าด้านในของแต่ละหลังเป็นอย่างไร เพราะไม่ได้มีโอกาสเข้าไปชม

พวกเราเดินขึ้นมาจนถึงต้นน้ำ เกือบสุดทางรีสอร์ท ช่วงนี้น้ำไม่เยอะ ลงไปแช่น้ำได้นิดหน่อย แต่น้ำค่อนข้างแรง เพราะมีฝนตกต่อเนื่องมาหลายวัน

มุมถ่ายรูปเยอะมาก แล้วก็ถ่ายออกมาสวย แต่ขอหันหลัง ถ้าหันหน้าแล้วจะตกใจ

อาหารเย็นของเราเมนูปิ้งย่าง ถ้าเป็นบาร์บีคิวไม้ละ 20 บาท / เห็ดย่างไม้ละ 15 บาท / มันเผาถาดละ 30 บาท นอกจากนี้ยังมีอาหารเหนือ หรืออาหารจานเดียวให้บริการอีกด้วย

ทางรีสอร์ทจะติดต่อเรามาก่อนว่าต้องการรับอาหารเย็นอะไรบ้าง จะได้เตรียมไว้ให้ แต่ถ้าใครไม่อยากกินที่รีสอร์ท ก็ขับรถออกไปกินร้านหัวสะพานก็ถือเป็นทางเลือกที่ไม่เลว (ดูเมนูทั้งหมดได้ที่นี่)

บรรยากาศ อาโปเดอมาง ในตอนกลางคืนสวยมากกกก นอนฟังเสียงน้ำไหล อากาศในช่วงเดือนสิงหาคมก็ไม่ได้ทำให้ร้อนจนเกินไป พัดลมแค่ตัวเดียวในเต็นท์ก็ทำให้หลับได้สบาย ๆ

ตื่นเช้ามามีหมอกปรากฏอยู่ตามสันเขาให้เราได้ถ่ายภาพอยู่บ้าง และทางที่พักก็นำอาหารเช้ามาเสิร์ฟ อาหารเช้าแบบอเมริกัน พร้อมกันข้าวต้มคนละหนึ่งชุด

รีสอร์ท Arpo de Marng
บรรยากาศยามเช้าที่รีสอร์ท Arpo de Marng

ยามเช้าที่ Arpo de Marng Resort หมอกปลกคลุมตามทิวเขา สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมฟังเสียงน้ำไหล เป็นอะไรที่เหมาะกับการพักผ่อนมาก อยากนอนต่อจนแทบไม่อยากกลับกรุงเทพฯ วันนี้เลย

พอมาเห็นด้วยตาตัวเอง บอกเลยว่าวิวสวยหลักล้านจากธรรมชาติจริง ๆ บรรยากาศดีมาก เหมาะกับการพักผ่อน แต่สิ่งที่ควรปรับปรุงคือสภาพห้องพัก ห้องน้ำที่ค่อนข้างเก่า ไม่ค่อยเหมาะสมกับราคา บางส่วนดูแออัดไป รวมถึงอาหารที่ปริมาณน้อยไปนิด

ช่องทางการติดต่อ

โค้งหมายเลข 3 จังหวัดน่าน
โค้งหมายเลข 3 อำเภอปัว จังหวัดน่าน

ระหว่างทางกลับจากอำเภอบ่อเกลือ ลงมาที่ตัวเมืองน่าน ยังมีจุดท่องเที่ยวอีกหลายที่ เช่น

เที่ยวน่าน Day4 – เที่ยวสะปัน

อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่ 4 ของการมาเที่ยวน่าน เราตื่นกันมาสูดอากาศที่ หมู่บ้านสะปัน และหลังจาก เที่ยวสะปัน จะมุ่งหน้าสู่ “อำเภอบ่อเกลือ” เพื่อพักผ่อนในหุบเขาที่เงียบสงบ และใกล้ชิดกับธรรมชาติไม่แพ้ที่ปัว หรือสกาดเลยล่ะ

Day4 : บ้านหยุดเวลา > น้ำตกสะปัน > ร้านหัวสะพาน บ่อเกลือ > บ่อเกลือสินเธาว์ภูเขา > Arpo de Marng resort

เที่ยวสะปัน

สะปันเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีสายน้ำไหลผ่าน โดยมีจุดกำเนิดจากภูเขา และน้ำตกสะปัน รวมเป็นลำธารขนาดใหญ่ มุมนี้ถ่ายจากสะพานร่วมใจสามัคคี บ้านสะปัน ที่เห็นไกล ๆ ปลายน้ำเป็น “อุ่นไอมาง” ที่พักยอดนิยมของการมา เที่ยวสะปัน อีกหนึ่งแห่ง

หมู่บ้านสะปัน มีสถานที่ท่องเที่ยวไม่มากนัก เน้นความเงียบสงบ และส่วนใหญ่จะเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทต่าง ๆ โดยแต่ละที่ก็จะมีวิวที่แตกต่างกันไป แล้วแต่คนชอบว่าอยากพักในมุมมองที่ได้วิวแบบไหน

(อ่านรีวิว เที่ยวตัวเมืองน่าน เที่ยวปัว ในวันก่อน ๆ DAY1 และ DAY2 และ DAY3)


บ้านหยุดเวลา ณ สะปัน

วินาทีแรกที่เห็น บ้านหยุดเวลา ณ สะปัน ต้องบอกว่าเป็นสวรรค์บนดินชัด ๆ  อยากหยุดเวลาไว้ ณ วินาทีนี้ ที่ตรงนี้ ความเขียวชอุ่มของทุ่งข้าว และภูเขา ตัดกับท้องฟ้าสีสดใส แทรกด้วยหมอกเมฆลอยลงมาปกคลุมเป็นหย่อม ๆ ทำให้นึกถึงคำที่ผู้คนมักพูดไว้ “ธรรมชาติจะเยียวยาทุกสิ่ง”

เป็นบ้านพักที่ยังไม่เปิดให้บริการ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมุมยอดฮิต ที่ใครได้มา เที่ยวสะปัน แล้วต้องแวะมา สวยเกินคำบรรยายจริง ๆ บ้านหยุดเวลาตั้งอยู่ก่อนถึงวัดสะปัน ซึ่งมีที่จอดรถเป็นลานกว้าง ๆ ให้เราจอดตรงนั้น แล้วเดินตามถนนลงมา

วิวบนเนินเขาบริเวณ บ้านหยุดเวลา ณ สะปันในช่วงต้นเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่กำลังเข้าหน้าฝนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เที่ยวน่านหน้าฝน นี่ล่ะบรรยากาศดีสุด ๆ ได้เห็นป่าเขา และทุ่งข้าวกำลังเขียวขจี

มุมทางลาดลงไปยังบ้านพักโฮมสเตย์ บ้านหยุดเวลา ณ สะปัน เป็นช่วงเวลาที่ฝนกำลังตกแต่เช้า เดินลงไปต้องใช้ความระมัดระวังนิดนึง แต่ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่กำลังปรับปรุง เลยเข้าไปถ่ายรูปได้ แต่ถ้ามีแขกเข้ามาพัก คงไม่อนุญาตให้เข้าแล้วนะ ได้แต่ถ่ายวิวไกล ๆ จากด้านนนอก

ติดตามรายละเอียด และวันเปิดจองได้ที่
วิวจากจุดกางเต้นท์ วัดสะปัน
วิวจากจุดกางเต็นท์ วัดสะปัน

และถ้าขับรถขึ้นไปจากบ้านหยุดเวลา จะพบกับวัดสะปัน ที่มีจุดกางเต็นท์ฟรีสำหรับนักท่องเที่ยว พร้อมมีห้องน้ำให้บริการ เป็นอีกหนึ่งจุดที่เราสามารถมองเห็นวิวกว้าง ๆ ของหมู่บ้านสะปัน


น้ำตกสะปัน

ปล่อยให้เธอได้เจอทางที่ดี ปล่อยให้เธอได้มีชีวิตใหม่ ปล่อยความรักนำทางให้เธอ

ปล่อย – NUM KALA

จากวัดสะปันเราขับย้อนลงมาไม่ไกลก็จะพบกับ น้ำตกสะปัน ซึ่งเป็นน้ำตกเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขา ในพื้นที่การดูแลของเขตอุทยานแห่งชาติขุนน่าน มีทั้งหมด 3 ชั้น และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี เพียงแค่เก้าแรกที่เข้าไปบริเวณน้ำตก ก็ได้รับรู้ถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติ

ยิ่งเดินมาถึงชั้นที่ 3 ของน้ำตกสะปัน สวยแบบขนลุกจริง ๆ มีเถาวัลย์เลื้อย พร้อมกับต้นไม้นานาพันธุ์ แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของน้ำตกแห่งนี้

แค่เห็นในภาพก็ร้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก น้ำตกที่กระทบน้ำด้านล่างทำให้เกิดเป็นละอองน้ำกระจายไปทั่วบริเวณ ตอนแรกเดินเข้าไปนึกว่าฝนตก แท้จริงแล้วเป็นละอองและไอน้ำจากน้ำตกเบื้องหน้า

เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ต้องมาแวะจริง ๆ สายถ่ายรูป สายธรรมชาติต้องชอบแน่นอน และที่นี่ยังเป็นที่ถ่ายทำ MV เพลงปล่อย ของหนุ่ม กะลาด้วย (MV เพลงปล่อย – กะลา)

  • Google Maps : https://goo.gl/maps/NnNsSfA33KmfG8iD9
  • พิกัด : ตำบลดงพญา อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน 55220
  • เวลาให้เข้าชม : 6:00 – 18:00 น.

ร้านหัวสะพาน บ่อเกลือ

ริมธาร บรรยากาศเย็นสบาย และร้านอยู่ที่หัวสะพานจริง ๆ

ถ้าเพื่อน ๆ ไปเที่ยวบ่อเกลือแล้วหาข้อมูลในอากู๋ ร้านอาหารบ่อเกลือ จะต้องเจอชื่อร้านหัวสะพานอย่างแน่นอน เพราะเป็นร้านดังในย่านนี้ ตัวร้านตั้งอยู่ติดลำธาร และสะพานเลยเป็นที่มาของชื่อร้าน

ก่อนเข้ามาเราก็ไม่ได้หามาก่อนว่า เป็นร้านอาหารแนวไหน มีอะไรขายบ้าง พอดูเมนูก็รู้ว่าเป็นร้านที่ผสมผสานระหว่างความจัดจ้านของแกงใต้ กับอาหารสไตล์ภาคเหนือ อีกทั้งเมนูอาหารก็มีให้เลือกไม่เยอะมาก

ที่จอดรถ กับตัวร้านจะอยู่ห่างกันนิดนึง เราต้องจอดรถด้านนอก และเดินเข้ามาประมาณ 200-300 เมตร ในช่วงบ่าย ๆ แบบนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่

อาหารที่เราสั่งมาทั้งหมดในมื้อนี้ นั่งกินริมลำธารไปเลยจ้า ที่บ่อเกลือร้านอาหารไม่เยอะมากนัก ร้านหัวสะพาน เป็นร้านที่อยู่ก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่สะปัน ตรงข้ามกับจุดท่องเที่ยวบ่อเกลือสินเธาว์พอดี

ปลาระเบิด 280 บาท ปลานิลทอดกรอบ หั่นเป็นชิ้นสวยงาม แล้วผัดกับพริกแกงสุดจัดจ้าน จานนี้ยอมเลย เผ็ดสมคำร้ำลือ


บ่อเกลือสินเธาว์

บ่อเกลือโบราณ

เป็นบ่อเกลือสินเธาว์ภูเขาแห่งเดียวในโลก คือ ปกติเราจะคุ้นเคยกับเกลือทะเลใช่ไหม แต่การทำเกลือที่นี่ จะใช้วิธีสาวเชือกลงไปในบ่อเพื่อตักน้ำเกลือที่อยู่ในบ่อขึ้นมาพักไว้ในบ่อพักเกลือ

หลังจากนั้นชาวบ้านก็จะต้มเกลือ จากน้ำที่ตักมาจากบ่อเพื่อให้น้ำเกลือระเหยออกไป แล้วนำไปใส่ตะกร้าเพื่อให้น้ำเกลือไหลออกมาให้หมด ทำแบบนี้จนน้ำในกระทะนั้นแห้งหมดไป ซึ่งปัจจุบันบ่อเกลือโบราณก็ยังมีให้เห็นอยู่ตรงกลางของบ่อเกลือสินเธาว์

ข้าง ๆ กันมีลำธารเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยฝูงปลาว่ายทวนน้ำอยู่ เราสามารถเดินลงไปรับกับความเย็นสดชื่นของลำธารได้อย่างใกล้ชิด

ซื้ออาหารปลาจากชาวบ้านแถวนั้น เพื่อให้อาหารปลา ผ่อนคลายร่างกายก่อนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวต่อที่บ่อเกลือ


จุดชมวิวถนนพับผ้า

ห่างจากบ่อเกลือประมาณ 12 กิโลเมตร มีอีกจุดชมวิวที่น่าสนใจ และเป็นทางผ่านเวลากลับลงไปที่ตัวเมืองน่านจากบ่อเกลือจะต้องผ่านจุดนี้ ผู้คนที่นี่เรียกว่าโค้งพับผ้า เป็นโค้งบนถนนหมายเลข 1081 สามารถจอดรถถ่ายภาพสวย ๆ ได้

จากมุมนี้จะมองเห็นถนนคดเคี้ยวสลับกับภูเขาที่เป็นเหมือนภาพพื้นหลัง ชวนให้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเช็คอินชิค ๆ


Arpo De Marng

Arpo De Marng บ่อเกลือ

จากจุดชมวิวพับผ้า เราย้อนกลับมาเที่ยวบ่อเกลืออีกครั้ง เพราะต้องการพักที่ Arpo De Marng ต่ออีกสักหนึ่งคืน เป็นที่พักที่อยู่ติดลำธารแบบจริง ๆ เราสามารถลงไปเล่นน้ำได้ ถ้าน้ำไม่แรงมากนะ

จุดเด่นของที่นี่คือความเงียบสงบ นอนฟังเสียงน้ำไหล จนบางครั้งก็ไหลแรง ก็คิดว่าเป็นเสียงฝนตกซะอีก

อาหารเย็นที่อาโปเดอมาง

รีวิวต่อไป เราจะพาไปชม Arpo De Marng กันแบบทุกซอกทุกมุม ถ้าพร้อมแล้วคลิกตามมากันเล้ยยย

ดอยอิงดาว at ดงพญา สวรรค์บนดิน ถิ่นบ้านสะปัน จังหวัดน่าน

หลังจากที่เที่ยวน่านกันมาทั้งวันใน DAY3 นี้ เราก็มุ่งหน้าขึ้นมาพักผ่อนนอนหลับกันที่ ดอยอิงดาว at ดงพญา ตั้งอยู่ในหมู่บ้านสะปัน จังหวัดน่าน บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งที่พัก ที่จองยากมากแห่งหนึ่งเลยล่ะ Continue reading ดอยอิงดาว at ดงพญา สวรรค์บนดิน ถิ่นบ้านสะปัน จังหวัดน่าน

เที่ยวน่าน Day3 – บ้านจักษ์กะพัฒน์ ก๋วยเตี๋ยวคุณหลิ่ง ดอยสกาด 1715 นอนสะปัน

เช้าวันที่ 3 ของการมาเที่ยวน่าน เราตื่นกันมาสูดอากาศที่ ดอยสกาด และจะมุ่งหน้าสู่ “สะปัน” เพื่อพักผ่อนในหุบเขาที่เงียบสงบ และใกล้ชิดกับธรรมชาติไม่แพ้ที่ปัว หรือสกาดเลยล่ะ Continue reading เที่ยวน่าน Day3 – บ้านจักษ์กะพัฒน์ ก๋วยเตี๋ยวคุณหลิ่ง ดอยสกาด 1715 นอนสะปัน

สกาดคอฟฟี่ ที่พักน่าน จิบชา กาแฟดิป วิวภูเขากระทบสายหมอก

หลังจากที่เราใช้ชีวิต กิน เที่ยว ทัวร์วัด วันที่สอง อย่างจุใจแล้วนั้น มองดูเวลาประมาณ 4 โมง เย็น เป็นเวลาที่ควรค่าแก่การเข้าที่พัก แน่นอนว่าคืนนี้เราจะนอนกันที่ดอยสกาด เราไปพักกันที่ สกาดคอฟฟี่ เป็นโฮมสเตย์ ที่อยู่ข้าง ๆ สกาดดีโฮมสเตย์อันฮอตฮิตนั่นล่ะ Continue reading สกาดคอฟฟี่ ที่พักน่าน จิบชา กาแฟดิป วิวภูเขากระทบสายหมอก

เที่ยวน่าน Day2 – ที่เที่ยวปัว จุดเช็คอินห้ามพลาด จากปัวไปนอนดอยสกาด

หลังจากที่เที่ยวน่านจบวันแรกกันไปอย่างสุดแสนจะประทับใจแล้ว เช้าวันใหม่ในวันที่สองของทริป “น่านไงบอกแล้วน่านไง” ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เนื่องจากวันแรกเรายังไม่ได้เริ่มเดินทางไป ที่เที่ยวปัว มากนัก วันที่สองของทริปเลยจะเที่ยวในอำเภอปัวให้ครบ Continue reading เที่ยวน่าน Day2 – ที่เที่ยวปัว จุดเช็คอินห้ามพลาด จากปัวไปนอนดอยสกาด

DaiDib DaiDee Farm Stay ได้ดิบได้ดี ขี่ควายกลางทุ่ง กินพิซซ่าเตาฟืน

เราขับจากที่พัก ตูบนาโฮมสเตย์ ในช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็น เพื่อจะไปกินข้าวเย็นกันที่ร้าน DaiDib DaiDee ได้ดิบได้ดี ซึ่งจริง ๆ แล้ว ที่นี้เป็นโฮมสเตย์กลางทุ่งนา และยังเปิดเป็นร้านพิซซ่าโฮมเมดที่ทำด้วยเตาถ่าน Continue reading DaiDib DaiDee Farm Stay ได้ดิบได้ดี ขี่ควายกลางทุ่ง กินพิซซ่าเตาฟืน

ตูบนาโฮมสเตย์ นอนกระท่อมกลางทุ่ง สดชื่นกับวิวหลักล้าน

หลังจากที่เราได้ กิน เที่ยว ทัวร์วัด กันที่เมืองน่านอย่างจุใจแล้วนั้น เราก็ตรงดิ่งขึ้นไปที่ปัวเพื่อที่จะมาพัก ตูบนาโฮมสเตย์ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 1:30 ชม. จากในเมืองน่าน เราได้คุยกับที่พักเอาไว้ เค้าให้คำแนะนำดีมาก ๆ Continue reading ตูบนาโฮมสเตย์ นอนกระท่อมกลางทุ่ง สดชื่นกับวิวหลักล้าน

เที่ยวน่าน Day1 – กินเที่ยว ทัวร์วัด ไปนอนปัว

ขอต้อนรับเข้าสู่ รีวิว “น่านไงบอกแล้วน่านไง”  เรามาเริ่มดูแพลนการ เที่ยวน่าน ของเราในวันแรกกัน

Day 1 : กรุงเทพฯ > น่าน > วัดพระธาตุเขาน้อย > ร้านวันดา > วันพระธาตุแช่แห้ง > วัดภูมินทร์ > สเวนเซ่นส์ กาดน่าน > ของหวานป้านิ่ม > ซุ้มลีลาวดี > ตูบนา โฮมสเตย์ > DaiDibDaiDee ได้ดิบได้ดี

เที่ยวน่าน วันที่ 1
ตัวอย่างแพลน เที่ยวน่าน วันแรก

เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปจังหวัดน่าน ด้วยรถยนต์ ซึ่งเริ่มออกเเดินทางกันประมาณเกือบ ๆ เที่ยงคืน วางแผนเอาไว้ว่า น่าจะถึงตัวเมืองน่านประมาณสาย ๆ (ดูจาก google map แล้ว บอกว่าประมาณ 9-10 ชั่วโมง) ถือว่าเป็นทางเลือกการเดินทางที่ดี สำหรับคนสามารถขับไกล ๆ ออกต่างจังหวัดตอนกลางคืนได้ และถ้ามีคนช่วยผลัดกันขับ ก็จะช่วยได้มาก แนะนำว่าให้นอนพักผ่อนให้เพียงพอก่อนออกเดินทาง จะได้ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ ไม่เหนื่อยเกินไป และสามารถเที่ยวได้ต่อเลย

เวลาประมาณ 5:30 เราก็มาถึงพิษณุโลก ทางมืดและเปลี่ยว อย่างที่ชาวเน็ตบอกจริง ๆ ไอ้เราที่หลับ ๆ อยู่ ก็ตื่นขึ้นมาช่วยเพื่อนดูทางกันเลยทันที แต่ไม่นาน เราก็ผ่านพ้นช่วงเวลาอันมืดมิดเหล่านั้นไปได้ ไม่นานนักฟ้าก็เริ่มสว่าง 6:00 เราก็เริ่มเข้าจังหวัดแพร่ บอกเลยว่าเริ่มเห็นความเขียวขจี กับภูเขาสูงใหญ่ พร้อมหมอกตลอดเส้นทาง เป็นอีกวิวของเส้นทางการขับรถที่สวยมาก

ป้ายต้อนรับจังหวัดน่าน

และแล้วเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง เราเข้าสู่ป้ายเขตจังหวัดน่าน เวลาประมาณ 7:30 แล้วก็แวะเปลี่ยนเสื้อผ้ากันที่โลตัส โชคดีที่โลตัสเปิด 8:00 มาถึงกันพอดีเป๊ะ ฮ่า ๆ อันนี้ดีเลยนะ เพราะพื้นไม่เปียก สะอาด แถมมีแอร์ ซื้อน้ำ ขนม มาตุนไว้ท้ายรถได้อีก เริ่ด ๆ (พิกัดโลตัส น่าน)

เมื่อมาถึงน่าน น้องฝนก็ตกต้อนรับเราปรอย ๆ ยามเช้านี้อากาศเย็นสบาย และแน่นอน แพลนเที่ยวน่านของเราในวันนี้ เราจะเน้น กิน เที่ยว ทัวร์วัดในเมือง และจบท้ายด้วยการขึ้นอำเภอปัวเพื่อไปนอนพักผ่อน… เอาล่ะ การท่องเที่ยววันแรกของเราเริ่มต้นขึ้นแล้ว !!


วัดพระธาตุเขาน้อย

วัดพระธาตุเขาน้อย จังหวัดน่าน

เราเริ่มเดินทางไป “วัดพระธาตุเขาน้อย” เป็นที่แรกเพื่อความเป็นศิริมงคล และเป็นจุดเช็คอินแรกก่อนเข้าตัวเมืองน่าน จริง ๆ ซึ่งวัดนี้ เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปสูงใหญ่ ตั้งเด่นเป็นสง่าตระการตา โดยจะหันพระพักตร์เข้าเมืองน่าน พร้อมกันวิวเมืองในมุมสูง เป็นวิวต้อนรับสำหรับการเริ่มต้น เที่ยวน่าน ได้อย่างดีเลยทีเดียว

วัดพระธาตุเขาน้อย ตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย จังหวัดน่าน เป็นวัดราษฎร์ สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2030 ซึ่งลานชมวิวที่เราเห็นนั้น คือ พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท ที่ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ด้วย (พิกัดวัดพระธาตุเขาน้อย)

นี่เป็นบริเวณวัดคร่าว ๆ หรือจะเรียกว่าวัดนุ้งแมวก็ได้นะ เพราะแมวเยอะจริง น่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลย เมี๊ยวววว


ร้านวันดา ข้าวแกง (สาขาดั้งเดิม)

ร้านอร่อยประจำจังหวัดน่าน

เราใช้เวลาอยู่ในวัดพระธาตุเขาน้อยไม่นานนัก เพราะหิวข้าวมาก ก็เลยมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารยอดฮิต ประจำจังหวัดน่าน นั่นก็คือ “ร้านวันดา” เป็นร้านข้าวแกงธรรมดา แต่มีเมนูหลากหลายมากมาย รวมมิตรอิ่มในทีเดียว มีทั้งข้าวซอย ไก่ทอดมะแขว่น ขนมจีนน้ำยา น้ำเงี้ยว แกงเขียวหวานไก่ ผัดพริก กับข้าวต่าง ๆ และที่สำคัญห้ามพาดเลยก็คือ หมูสะเต๊ะนั่นเอง เรามากันที่สาขาดั้งเดิม เพราะอยู่ใกล้ ๆ วัดพระธาตุเขาน้อย หน้าร้านก็เป็นร้านอาหารบ้าน ๆ ธรรมดา ๆ เลย

ตอนแรกก็ว่าจะไม่สั่งหมูสเต๊ะ เพราะเช้า ๆ ยังไม่อยากกินเยอะ แต่กลิ่นหอมเตะจมูกมากจนต้องจัดมาหนึ่งจาน ก็ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่เลยแหละ

ขนมจีน จานละ 35 บาท รสชาติก็ปกตินะ ทำมาโอเคเลยนะ แต่ไม่ว้าวอะไรมาก

ส่วนข้าวซอย ชามละ 40 บาท เข้มข้นสมชื่อจริง ๆ เครื่องดี รสชาติจุใจมาก ขนาดคนที่ไม่ค่อยชอบกินข้าวซอย พอได้มาลองแล้วติดใจ จนทำให้กล้ากินร้านอื่น ๆ ต่อไปเลย

ของที่ต้องลองเมื่อมาถึงเมืองเหนือ ไก่ทอดมะแขว่น มีทั้งแบบน่องและปีก เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ ก็กรอบ ๆ หอม ๆ กลิ่นมะแขว่นโดดดีมาก เค้าบอกว่ามีคุณสรรพช่วยในเรื่องการขับถ่ายด้วยแหละ

และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ หมูสะเต๊ะ ย่างเตาถ่าน เนื้อนุ่ม หอม ๆ อร่อยมากกกกกก จานนี้ 50 บาท เองงงงงงง ไม้ละ 5 บาท เจ้าาาาา ถือว่าถูกอยู่นะ

หมดนี่ สำหรับมื้อนี้ 4 คน 295 บาท อิ่มจุก ๆ ไปเลยจ้า (พิกัดวันดาข้าวแกง)


วัดพระธาตุแช่แห้ง

วัดพระธาตุแช่แห้ง วัดคู่บ้านคู่เมืองน่าน

หลังจากที่เรากินข้าวกันเสร็จ เราก็แวะกันไปต่อที่ “วัดพระธาตุแช่แห้ง” เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดน่านอีกเช่นกัน เป็นวัดที่อารมณ์เหมือน วัดพระแก้วของกรุงเทพฯ อะไรแบบนี้ ลักษณะของวัดจะเป็นเจดีย์สีทองสูงเด่นเป็นสง่ามาก ๆ พอเดินเข้าไปก็ให้ความรู้สึกสงบ สามารถเดินอธิฐานเวียนเทียน วนรอบเจดีย์ทองได้ (พิกัดวัดพระธาตุแช่แห้ง)

เท่าที่สังเกตวัดในจังหวัดน่านจะไม่นิยมให้จุดธูปเทียนกัน คงอาจะเป็นเพราะเรื่องมลพิษ หรือเป็นวัฒนธรรมของที่นี่ก็เป็นไปได้

วัดในเมืองน่าน จะอยู่ไม่ไกลกันมาก สามารถเที่ยวได้หมดภายใน 1 วัน บริเวณรอบ ๆ ตัวเมืองน่าน ก็จะรายล้อมไปด้วยวัดต่าง ๆ อารมณ์เหมือนอยู่เกาะรัตนโกสินทร์ในกรุงเทพฯ ยังไงยังงั้นเลยแหละ แถมไม่มีสายไฟให้รกสายตา


วันที่เราไปถึงน่าน บังเอิญตรงกับศุกร์พอดี เลยมีโอกาสได้เห็นเด็ก ๆ นักเรียน ใส่ชุดเหนือไปเรียน น่ารักไปอีกแบบนะ และที่สำคัญ เราชอบการตกแต่งสถานที่มาก ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนมาเที่ยวเหนือ ต่างถิ่น ต่างแดนจริง ๆ ไม่เว้นแม้แต่ตู้ ATM หรือ 7-11 ก็ยังมีการคุมโทนให้เข้ากับบรรยากาศเมืองน่าน


วัดภูมินทร์ (วัดกระซิบรัก)

วัดภูมินทร์ วัดยอดฮิตน่าน

เราก็เดินต่อกันไปเรื่อย ๆ มาจนถึง “วัดภูมินทร์” หรือที่คนนิยมเรียกกันว่า “วัดกระซิบรัก” วัดยอดฮิตประจำจังหวัดน่าน ของเหล่านักท่องเที่ยวอีกเช่นกัน

ด้านในวันภูมินทร์ มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง “ปู่ม่านย่าม่าน” หรืออาจเคยได้ยินอีกชื่อหนึ่งว่า “กระซิบรักบันลือโลก” ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองน่าน ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนในจังหวัดน่าน หรือเวลาซื้อของฝากต่าง ๆ จะต้องเห็นภาพกระซิบรักนี้อยู่บนผลิตภัณฑ์นั้น ๆ

ปู่ม่านย่าม่าน

จุดเด่นของวัดนี้ก็คือ จะมีภาพวาด ภาพเขียน จิตรกรรมฝาผนัง ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี อันเป็นเอกลักษณ์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของชาวเหนือล้านนา มาตั้งแต่ดั้งเดิม และภาพวาดยอดฮิตก็คือ “กระซิบรัก” เป็นภาพของชายหนุ่มที่ทำท่าทางกระซิบข้าง ๆ ใบหูของหญิงสาวงาม นั่นเอง (พิกัดวัดภูมินทร์)

หมายเหตุ – ถ้าไม่อยากเข้าออกรถบ่อย ๆ และอากาศเป็นใจ ไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป เราสามารถจอดรถไว้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตรงข้ามวัดภูมินทร์ แล้วเดินเที่ยว หรือปั่นจักรยานก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบนะ ซึ่งแถวนั้นจะมีแหล่งท่องเที่ยวหลายที่ติดกัน เช่น ซุ้มลีลาวดี วัดมิ่งเมือง วัดศรีพันต้น วัดกู่คำ วัดหัวเวียงใต้ หรือกำแพงเมืองเก่าน่าน เป็นต้น


ซุ้มลีลาวดี (พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน)

พอออกจากวัดภูมินทร์ เราก็เดินต่อไปนิดหน่อย เป็นซุ้มอุโมงค์ต้นไม้ หรือซุ้มลีลาวดี เป็นอีกหนึ่งจุดห้ามพลาด เมื่อมาเที่ยวน่านเลยก็ว่าได้ ผู้คนนิยมมาถ่ายรูปกับซุ้มนี้กัน และด้านหลังยังเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำจังหวัดอีกด้วย (พิกัดซุ้มลีลาวดี)


Swensen’s กาดน่าน

สเวนเซ่นส์กาดน่าน

หลังจากที่เราทำบุญกันเสร็จแล้ว เราก็ไม่ลืมที่จะแวะไปเช็คอินความน่ารักประจำจังหวัดน่านแห่งใหม่ นั่นก็คือ “Swensen’s กาดน่าน” สเวนเซ่นส์ของที่นี่ มีความพิเศษนั่นก็คือ จะตกแต่งตัวร้านเป็นแบบล้านนา ทั้งรูปแบบอาคารภายนอกและการตกแต่งข้างใน ก็คือจะมีสองชั้น ชั้นล่างก็จะเป็นร้านสเวนเซ่นส์แบบปกติทั่วไป แต่พวกโต๊ะ เก้าอี้ การตกแต่ง ก็จะให้อารมณ์แบบล้านนา

มีบันไดไม้ข้างหลังร้าน สำหรับเดินขึ้นไปบนชั้นสองของร้าน ให้ความรู้สึกเหมือนกับขึ้นบ้านเรือนไทย เมื่อเดินขึ้นไปถึง เราก็จะเจอกับภาพวาด “กระซิบรัก” อีกแล้ว เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดน่านจริง ๆ แต่ความพิเศษของที่นี่ก็คือ จะเป็นพื้นหลังสีทอง ซึ่งเค้าบอกว่า มีที่นี่ที่เดียวในจังหวัดน่านเลย บริเวณนอกเรือน ก็จะมีโซนที่นั่งกับพื้น สำหรับนั่งกินลมชมวิว เป็นลักษณะขันโตก ที่มีความล้านนาสูงมาก ถ้าใครชอบดื่มด่ำบรรยากาศชาวเหนือ ก็นั่งตรงนี้ได้นะ แต่ถ้าใครต้องการนั่งในห้องแอร์ ก็สามารถเดินเข้าไปข้างในห้องแอร์ได้

ก็จะตกแต่งสไตล์ล้านนาเช่นกัน และมีการเซตฉากชุดครัวแบบดังเดิม เป็นครัวโบราณ พร้อมกับมีขันโตก ให้สามารถนั่งกินไอติม และถ่ายรูปกันได้ น่ารักดีนะ ใครมาน่านแล้วต้องห้ามพลาด (พิกัด Swensen’s กาดน่าน)


ของหวานป้านิ่ม

ถึงแม้ว่า เราจะกินไอติมสเว่นเซ่นกาดน่าน กันไปแล้ว แต่เราก็ยังไม่วาย ที่จะไปต่อกันที่ร้านขนมหวานชื่อดังประจำจังหวัดน่าน นั่นก็คือ “ของหวานป้านิ่ม” เป็นร้านที่ขายไอติม ขนมหวาน บัวลอย ต่าง ๆ ทีเด็ดก็คือ จะเป็นเมนูไอติม แล้วราดด้วยทอปปิ้งต่าง ๆ จุใจ ที่ชอบและประทับใจที่สุดก็คือ ไอติมไข่แข็ง แล้วก็ท็อปปิ้งข้าวฟ่าง ข้าวเหนียวดำ หรือ ขนมหวานต่าง ๆ (ดูเมนูของหวานร้านป้านิ่ม)

ที่นิยมสั่งกันก็จะเป็น ไอติม ที่เลือกได้ว่าจะเอาแบบธรรมดา หรือแบบไข่แข็ง บวกท็อปปิ้งต่าง ๆ เช่น บัวลอย ข้าวเหนียวดำ / ข้าวฟ่าง / ของหวานต่าง ๆ ในส่วนของบัวลอย ก็จะหนึบ ๆ ดี หวานหอม กับข้าวเหนียวดำหอมนุ่ม ตัวเนื้อไอติมอร่อยเลย ราดกับน้ำกะทิ ลงตัวไปหมดเลย เพราะน้ำกะทิของป้านิ่ม จะออกแนว มัน ๆ ข้น ๆ หอมนิด เค็มหน่อย มิน่าล่ะ ถึงเป็นร้านฮอตฮิตที่ต้องมาเยือน อร่อยติดใจจนต้องกลับมาซ้ำในวันกลับเลยล่ะ (พิกัดขนมหวานป้านิ่ม)


ตูบนาโฮมสเตย์ อ.ปัว

หลังจากที่เรากิน ของหวานป้านิ่ม กันอิ่มแล้ว เราก็ตัดสินใจขับรถขึ้นไปที่ปัว เพื่อที่จะไปที่พัก ตูบนาโฮมสเตย์ เราใช้เวลาเดินทางกันประมาณชั่วโมงครึ่งจากตัวเมืองน่าน ซึ่งก่อนหน้านี้ เราได้คุยกับที่พักเอาไว้ เค้าให้คำแนะนำดีมาก ๆ บอกว่าอยากให้มาถึงไม่เกิน 4 โมงเย็น เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่แสงค่อนข้างสวยงาม

เราเลือกพักห้องกระท่อมกลางนา คืนละ 1,500 บาท พักได้ 2 คนต่อหลัง รวมอาหารเช้า คือเป็นกระท่อมเล็ก ๆ ตั้งอยู่กลางทุ่งนาจริง ๆ โซนนี้จะมีทั้งหมด 5 กระท่อมด้วยกัน เป็นห้องน้ำรวม มีทั้งหมด 2 ห้อง ตอนที่เราไปพักโชคดีมากที่ไม่มีคนอื่นมาพัก ทำให้ห้องน้ำเป็นของพวกเรา ฮ่า ๆ รีวิวตูบนา โฮมสเตย์


DaiDib DaiDee ได้ดิบได้ดี

การผจญภัยเพื่อไปกินพิซซ่า ที่สนุกที่สุดในทริปนี้เลยก็ว่าได้ เห็นแบบนี้ แต่สนุกจริง ๆ นะ 5555555

อ่านรีวิวแบบเต็มจัดชัดแจ๋ว ต่อได้ที่ รีวิว DaiDib DaiDee น้า 🙂

หลังจากนั้น เราก็ไปเดินถนนคนเดินปัว (เตียวกาดแลงเมืองปัว) เป็นถนนคนเดินเล็ก ๆ มีของกินของใช้ขายไม่เยอะมาก คล้ายกับตลาดนัดประจำอำเภอ และมีโซนที่นั่งขันโตกหน้าเวทีที่มีดนตรีสด ร้องเพลงเหนือชิว ๆ ให้เราฟัง พร้อมกับนั่งกินข้าวคุยกัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่ดี แต่เราไปดึกหน่อย ร้านต่าง ๆ ก็เริ่มทยอยปิดกันหมดแล้ว (พิกัดถนนคนเดินปัว)

หลังจากที่เราเที่ยวผจญภัยกันอย่างจุใจแล้ว เราก็กลับมายังที่พักตูบนา โฮมสเตย์ สำหรับที่หลับนอนคืนแรกของทริปนี้ นอนฟังเสียงแมลง กับสูดอากาศบริสุทธิ์ อันแสนสดชื่น บรรยากาศหลังฝนตกกลางทุ่งนาแบบนี้ มันช่างมีความสุขเสียจริง ๆ (อีกแล้ว) จะมีความสุขเยอะไปแล้วนะ 🙂


อ่านรีวิวเที่ยวน่าน DAY2

Cocoa Valley Resort > วัดศรีมงคล (วัดก๋ง) > ร้านอาหารฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ > กาแฟบ้านไทลื้อ – ลำดวนผ้าทอ > วัดภูเก็ต > สกาดคอฟฟี่

อ่านรีวิวเที่ยวน่าน DAY3

ตัวอย่างแพลนเที่ยวน่าน วันที่สาม (09/08/2020)

สกาดคอฟฟี่ > บ้านจักษ์กะพัฒน์ > ก๋วยเตี๋ยวคุณหลิ่ง > จุดชมวิว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 1715 > ดอยอิงดาว at ดงพญา สะปัน