The Printing House Poshtel กินอิ่มนอนหลับ Rooftop วิวภูเขาทองยามค่ำคืน

The Printing House Poshtel เป็นโฮสเทลที่น่าจับตามองในขณะนี้ มีทั้งห้องอาหาร ที่ตกแต่งหรูระดับโรงแรม แถมด้วยบรรยากาศ Rooftop ที่สามารถมองเห็นวิวรอบเกาะรัตนโกสินทร์อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี Bunk beds เป็นที่พักราคาสบายกระเป๋า เริ่มต้น 650 บาท/เตียง

เดิมทีตึกนี้ได้เป็นโรงพิมพ์เก่ามาก่อน และเจ้าของ The Printing House Poshtel (คุณหน่อง) ได้ทำการเช่าตึก พร้อมกับการรีโนเวทตึกนี้ใหม่ทั้งหมด โดยวางคอนเซ็ปต์ให้มีการตกแต่งสไตล์บูทีค ตามรูปแบบของโรงแรม แต่ก็ไม่ทิ้งกลิ่นอายความเป็นเกาะรัตนโกสินทร์ไปไหน ยังคงให้มีความรู้สึกว่า ตอนนี้ฉันได้พักอยู่ในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์อยู่นะจ๊ะ

พิกัด The Printing House Poshtel ตั้งอยู่ที่ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า สังเกตได้ไม่ยาก อยู่เยื้องกับศาลาว่าการกรุงเทพฯ ฝั่งเดียวกับมนต์ นมสด บรรยากาศ และหน้าตาอาหารที่เจ๊จะให้ชมในรีวิวนี้ จะเป็นอย่างไรบ้าง ดูคลิปด้านบนเรียกน้ำย่อยกันก่อนเล้ยยย (เพื่อความเพลิดเพลิน บันเทิงใจ อย่าลืมกด HD กันด้วยน้า)


ห้องอาหาร The Letter Press Cafe & Restaurant  

เดินเข้ามาเราก็จะเจอกับล็อบบี้ของโฮสเทลก่อนเลย และข้างกันจะเป็นห้องอาหารหลักประจำ The Printing House Poshtel มีลักษณะเป็น All day dining ที่เปิดให้ใครก็ได้ สามารถเข้ามานั่งทานอาหารได้เหมือนร้านอาหารทั่วไปปกติ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าพักที่โฮสเทลก็ตาม

โดยห้องอาหารนี้ เปิดให้บริการตั้งแต่ 7:30 – 22:00 น. มีที่นั่งสะดวกสบาย ภาพด้านบนเป็นบริเวณชั้น 1

เดินตามขึ้นมาที่ห้องอาหารชั้น 2 จะดูมีความเป็นส่วนตัวนิด ๆ บรรยากาศหรูหรา ดูสบาย ๆ ตกแต่งสไตล์โรงแรม แบบบูทีค ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และโรแมนติกไปพร้อม ๆ กัน

ส่วนเมนูอาหารจะคล้ายกับอาหารที่เสิร์ฟตามโรงแรม เพราะเชฟนั้นมาจากโรงแรมทั้งหมด รับรองว่าเราจะได้กินอาหารอร่อย ๆ ฝีมือเชฟระดับโรงแรมอย่างแน่นอน


เมนูอาหารของ The Printing House Postel

โดยเริ่มจากเครื่องดื่มเปิดมื้อ Cuddles on the Beach (95 บาท) เป็นเครื่องดื่มสำหรับ Drink before eating คือ ดื่มก่อนกินอาหาร ซึ่งจะมี  cranberry, orange, lemon juice เป็นการเรียกน้ำย่อย ทำให้เรามีความอยากอาหารมากขึ้น ตามด้วย Caramel Syrup Daiquiri (95 บาท++) เป็นเครื่องดื่มสำหรับ After meal drinks คือ ดื่มหลังจากกินอาหาร ซึ่งจะมี caramel syrup, lemon juice ตัวช่วยสำหรับตัดความเลี่ยนของอาหารนั่นเอง

ข้าวตังหน้าตั้ง (120 บาท) ตอนเสิร์ฟออกมานี่รู้สึกว้าวมาก ๆ ครีเอทเมนูได้ดูสง่า สมกับความเป็นไทยโบราณ ดูน่ารัก น่ากิน ข้าวตังทอดกรอบเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มปรุงรสด้วยกระเทียม หอมแดง รากผักชี พริกไทย ถั่วลิสงคั่ว หมูสับ และกุ้ง

ข้าวตังกรอบชิ้นเล็กขนาดพอดีมือ กรอบหอมกินคู่กับน้ำจิ้มปรุงรส ที่มีรสชาติหอมหวานสไตล์ไทยโบราณ บวกกับความมันของถั่วอร่อยเลยล่ะ เหมาะกับเป็น appetizer เปิดมื้อได้อย่างดี กินเพลินเลยเรา

ซุปหัวหอม (120 บาท) เป็นซุปคลาสสิคสไตล์ฝรั่งเศส เคี่ยวสมุนไพรในซุปไก่ เสิร์ฟมาแบบร้อน ๆ บวกกับ ขนมปังฝรั่งเศสอบชีส

ซุปหอมหวานอ่อน ๆ เค็มนิด ๆ หอมหัวหอมดีมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติเครื่องเทศเข้มข้น กินคู่กับ บาแก๊ตชีสหอม ๆ มัน ๆ

ข้าวผัดปลาร้าทรงเครื่อง (120 บาท) เป็นข้าวหอมมะลิผัดด้วยไข่แดงเค็ม คะน้า พริกแห้ง พริกขี้หนูสวน กระเทียม และปลาร้าปลาช่อน ซึ่งเค้าการันตีว่าใช้ปลาช่อนเกรดดี ในการทำปลาร้า โดยใช้กระบวนการหมักที่ดี เชื่อถือได้ในเรื่องของความสะอาด

ผัดข้าวมาแบบเรียงเม็ด ไม่แห้ง ไม่แฉะเกินไป ได้รสชาติหอม ๆ มัน ๆ ของไข่แดงเค็ม ส่วนตัวปลาร้านั้น จะคล้ายกับปลาเค็ม ส่วนตัวแล้วเรายังเฉย ๆ กับเมนูนี้นะ ไม่ได้ว้าวอะไรมาก แต่เค้าว่า ชาวต่างชาติกลับชอบเลยทีเดียว ซึ่งทางร้านก็บอกว่าเข้าใจนะ ว่าคนเราชอบไม่เหมือนกัน ฮ่า ๆๆ

มัสมั่นเนื้อ เสิร์ฟกับขนมปัง และอาจาด (280 บาท) อีกหนึ่งเมนูที่เห็นแล้วร้องว้าว เสิร์ฟมาชุดใหญ่รัชดาลัยเทียร์เตอร์มาก ๆ ครีเอทได้น่าสนใจมาก เป็นมัสมั่นเนื้อสันใน เคี่ยวเครื่องเทศ หอมแดง อบเชย ลูกจันทน์ ยี่หร่า โป๊ยกั๊ก กระเทียม หอมใหญ่ ถั่วลิสง ลูกกระวาน โดยเชฟจะพยายามทำรสชาติออกมาแบบอินเดีย ต้องการให้มีกลิ่นเครื่องเทศฉุน ๆ นั่นเอง

แกะห่อกระดาษออกมา ก็จะเจอกับแกงมัสมั่นเนื้อ หอมเครื่องเทศฉุน ๆ แถมด้วยแท่งอบเชย ที่ปักลงมาตรงกลาง ช่วยให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น และเพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้อบเชย จิ้มเนื้อกินได้เลย เนื้อนุ่ม ด้านในมีความเหนียวนิด ๆ รสชาติของแกงเข้มข้นสุด ๆ เครื่องเทศฉุนแบบไม่แรงขนาดที่กินไม่ได้นะ อร่อยแบบกำลังดี

จิ้มขนมปังหั่นเต๋า ที่อบมาแบบกรุบกรอบ ตัดเลี่ยนด้วยอาจาดเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เป็นเมนูที่ลงตัวเมนูนึงเลยล่ะ ชอบมากที่สุดเลยยย

หอยแมลงภู่อบซอสมะเขือเทศ (250 บาท) หอยแมลงภู่ไซส์เล็ก อบด้วยซอสมะเขือเทศที่ทำการเคี่ยวเองแบบสูตรพิเศษ ตามสไตล์อิตาเลียน เหมาะสำหรับสาวกคนรักซีฟู๊ด

สเต็กเนื้อริบอาย (750 บาท) สเต็กเนื้อริบอายออสเตรเลีย ใช้เนื้อส่วนซี่โครงชิ้นใหญ่ เสิร์ฟพร้อมกับ ซอสพริกไทยดำสูตรไวน์แดงเข้มข้น หรือคลาสสิคเกรวี่ซอส และผักย่าง ทางร้านได้บอกกับเราว่า เค้าคัดเนื้อเกรดดี เพื่อให้สาวกคนรักเนื้อได้ลิ้มลองความอร่อยในสไตล์ The Printing House

เนื้อถูกย่างด้วยเตาถ่านลาวา ซึ่งจะทำให้เนื้อนั้น มีความหอมไหม้อ่อน ๆ สามารถเลือกระดับความสุกของเนื้อได้ โดยเฉพาะแบบยอดนิยมคือ medium rare นั่นเอง

ดูนี่สิ Medium rare แบบฉ่ำ ๆ เนื้อเหนียวนุ่ม กำลังดี หอมไหม้ดีจริง เคี้ยวแล้วหนึบหนับอยู่ในปาก มีมันแทรกมากหน่อย ๆ ซอสพริกไทยดำเข้มข้น อร่อยมาก ๆ รสชาติกลมกล่อมลงตัว เผ็ดพริกไทย รสชาติเข้ากับตัวเนื้อได้เป็นอย่างดี

กินคาวแล้ว ก็ต้องมีของหวานล้างปากกันหน่อย ทีรามิสุ (120 บาท) เสิร์ฟมาแบบถ้วยกาแฟ ดูน่ารักน่ากิน กลิ่นกาแฟหอมโดดขึ้นมามาก

รสชาติของทีรามิสุตัวนี้ จะมีรสของกาแฟที่เข้มมาก ๆ ขมพอสมควรเลยนะ สำหรับคนที่ไม่กินกาแฟ ตัวมูสครีมชีส หอมอร่อยเข้ากับตัวเนื้อเค้กของกาแฟ ใครที่ชอบกาแฟ อาจจะรักเมนูนี้ได้ไม่ยาก

ราสเบอรี่ครีมบลู (80 บาท) เสิร์ฟรูปแบบเหมือนกับทีรามิสุ แต่จะมีน้ำตาลเบิร์นอยู่ที่ช้อนวางเก๋ ๆ ออนท็อปด้วยราสเบอรรี่ ข้างในมูสเป็นชั้นของครีมชีส

รสชาติจะหอมหวานอ่อน ๆ ด้วยชีส ตัดเลี่ยนด้วยความอมเปรี้ยหน่อย ๆ ของราสเบอรรี่

** Subject to 7% vat, 10% service charge **


Rooftop @ The Printing House Poshtel

ถ้าหากใครที่ยังไม่จุใจพอ ทางร้านยังมีชั้น 5-6 ที่เป็น Rooftop บรรยากาศนี่บอกได้เลยว่าสุดยอดมาก มองเห็นรอบเกาะรัตนโกสินทร์ได้แบบ 360 องศา สามารถสั่งเครื่องดื่มขึ้นมานั่งรับลม ชมวิวกันได้ตามความต้องการ

บริเวณชั้น 5 ที่ตั้งของบาร์เครื่องดื่ม ก็จะสามารถมองเห็นวิวได้เหมือนกัน

เดินขึ้นมาต่อที่ชั้น 6 เป็น Rooftop บรรยากาศเป็นเลิศ เหมาะแก่การมาแฮ้งเอ้าท์เป็นอย่างยิ่ง

ขนาดช่วงเย็น ๆ ยังสวยขนาดนี้ ถ้าดึกกว่านี้ จะงดงามขนาดไหน คิดดู๊ววว

เครื่องดื่มที่แนะนำ Amaretto Cranberry kiss (Amaretto & Cranberry Juice) และ Mix Berry Mojito (Mixed Berry & Secrets)


ห้องพัก The Printing House Poshtel

Poshtel นั้นมาจาก hotel + hostel ซึ่งจุดประสงค์นั่นคือ ยกระดับโฮสเทล ให้คล้ายกับโรงแรม ในราคาไม่แพง เริ่มต้น 650 บาท เท่านั้น โดยที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 15 ห้อง ประกอบไปด้วย ห้องแบบ deluxe rooms, family rooms และ bunk beds และสำหรับแขกที่เข้ามาพักนั้น ตอนเช้าก็สามารถลงมาจิบกาแฟเบา ๆ กินของว่างที่ชั้นล่างกันได้ หรือจะสั่งอาหารของโรงแรมกินก็ไม่ว่ากัน

1. Bunk Bed with Shared Bathroom

ห้องพักยอดฮิตที่เหล่า backpacker มักจะพักกัน เพราะด้วยราคาที่ถูก อาศัยการนอนพักเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง แล้วออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ อีกทั้งยังได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของแต่ละคนได้ มีทั้งตั้งแต่ 4-8 เตียง ซึ่งจะเป็นห้องพักแบบที่รวมทั้งผู้หญิง และผู้ชาย แต่สำหรับผู้หญิง ที่ต้องการความเป็นส่วน ก็มีห้องรับรองสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ

ภายในห้อง Bunk beds ดูดีเหมือนโรงแรมสมคำคุยจริง ๆ สภาพห้องดูเจริญหูเจริญตา สะอาด และมีการจัดเตียงเป็นสัดส่วน ไม่อึดอัดจนเกินไป ซึ่งก็จะมีล็อคเกอร์ให้เก็บของสำคัญ และจะมีตู้เย็นขนาดเล็กให้อีกด้วย

แต่ละเตียงนั้น จะมีม่านปิดกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว และจะมีทางขึ้นบริเวณด้านของเตียง สำหรับคนที่นอนเตียงบน ซึ่งใครที่นอนด้านล่าง ก็จะไม่ถูกรบกวนด้วยการปีนป่ายบันไดของเตียงบน

จุดเด่นของ bunk beds ที่ The Printing House น่าจะเป็นตรงที่ “มีทีวีส่วนตัวของแต่ละเตียง พร้อมหูฟัง” สามารถนอนดูทีวีกันอย่างสบายใจ แบบที่ไม่ต้องรบกวนกัน สบายแบบนี้ ไม่อยากลุกออกจากเตียงเลยแฮะ ฮี่ ๆๆ

 

บางห้องพัก จะมีประตูด้านหลัง เพื่อออกไปรับลมชมวิวกันได้ที่ระเบียง จะมีเตียงชายหาดให้ มีโต๊ะเก้าอี้ สำหรับคนอยากนั่งชมวิว หรือนั่งคุยชิล ๆ

โดยบริเวณด้านนอก จะมีห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ สำหรับคนที่พักแบบ Bunk beds มีห้องน้ำรองรับเยอะพอสมควร ไม่ต้องกลัวว่าจะแย่งกัน และมีการแบ่งแยก ชาย/หญิง

ห้องน้ำดูขาวสะอาดตา สะอาดกว่าบ้านเราอีกอะ 55555555

มีไดร์เป่าผมให้ด้วย ดีจังง

2. Private deluxe rooms

นอกจากห้องแบบ bunk beds ที่แชร์ห้อง แชร์ห้องน้ำ กันนั้น The printing ยังมีห้องส่วนตัวไว้เป็นตัวเลือกอีก 3 ห้อง ราคาประมาณ 2,400 บาท ต่อห้อง ซึ่งราคาจะ บวก/ลบ ตามช่วงเวลา สามารถเช็คได้ตาม website ของโรงแรม หรือผ่านเว็บไซต์ booking และ agoda

เป็นห้องพักขนาดกลาง ๆ ที่มีห้องน้ำในตัว มีทีวี ตู้เย็น และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายให้ตามสไตล์ของโรงแรม

มีพื้นใช้สอยพอสมควร ไม่อึดอัด เหมาะสำหรับ คู่รัก และครอบครัว 2-3 คน ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

ห้องน้ำกว้างพอสมควร สวยงาม ดูหรูหราระดับโรงแรม บางทีก็อยากนอนในห้องน้ำนะ 555555

สรุปข้อมูลห้องอาหาร และที่พักของ เดอะ พรินติ้ง เฮาส์ พอชเทล

  • ชั้น 1-2 : เป็นห้องอาหาร All day dining เปิด 7:30 – 22:00 น.
  • ชั้น 2 : เป็นห้องอาหารเช่นกัน จะส่วนตัวกว่าชั้นล่างหน่อย บางทีจะมี Live brand
  • ชั้น 3-4 : เป็นห้องพัก Bunk beds และ Deluxe rooms
  • ชั้น 5 : ที่นั่งกินอาหาร และมีบาร์เครื่องดื่ม บรรยากาศด้านข้าง มองเห็นวิวชั้นบน มี Live brand (วงดนตรี) มาเล่นทุกคืนวันศุกร์ และเสาร์
  • ชั้น 6 : เป็น Rooftop มองเห็นบรรยากาศยามค่ำคืน บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ (ภูเขาทอง / อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย)
  • ราคาห้องพักแบบ Bunk beds เริ่มต้น เตียงละ 650 บาท
  • มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ แยกชาย/หญิง สำหรับ คนมาพักแบบ Bunk beds
  • ราคาห้องพักแบบ Deluxe เริ่มที่ประมาณ 2,400 บาท (ราคาจะลด/เพิ่ม ตามช่วงเวลา)

The Printing House Poshtel Bangkok อาหารฟิวชั่น รสชาติเข้มข้นถูกใจ มีให้เลือกหลากหลาย ใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์ บรรยากาศดี มี rooftop ให้ได้ผ่อนคลาย และยังมีห้องพักที่เหมาะกับนักเดินทางไว้คอยให้บริการอีกด้วย

Leave a Reply