ถ้าพูดถึงบุฟเฟ่ต์นานาชาติระดับห้องอาหารของโรงแรมในเมืองไทยนั้น มั่นใจว่า “ห้องอาหารระเบียงทอง” ของโรงแรมนารายณ์ เป็นบุฟเฟ่ต์ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามาอย่างยาวนาน ด้วยมาตรฐานรสชาติที่มีทั้งความสด ความอร่อย คุณภาพ รวมไปถึงบรรยากาศ ทำให้ บุฟเฟ่ต์ระเบียงทอง จึงมีผู้คนเข้ามาแวะทานกันอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเกือบเต็มทุกโต๊ะ ยิ่งถ้าเป็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิคย์ หรือช่วงวันหยุดยาว ที่นี่จะแน่นเป็นพิเศษ แนะนำว่าให้จองก่อนเข้ามาก็ดีนะ เพราะจะได้เลือกที่นั่งได้ด้วย ใกล้ๆไลน์อาหารยิ่งดีเลย พูดแล้วจะหาว่าทางเราโม้ เรามาเริ่มดูความน่าสนใจของไลน์อาหารกันเลยจ้า
*อัพเดท สำหรับเมนูอาหารระเบียงทองปี 2017 คลิกที่นี่
พิกัดห้องอาหารระเบียงทองตั้งอยู่ชั้น 2 ของโรงแรมนารายณ์ ถนนสีลม มาไม่ถูกจิ้ม >> พิกัดห้องอาหารระเบียงทอง มีที่จอดรถให้พร้อม ส่วนถ้าใครเดินทางมาด้วยรถสาธารณะ ให้นั่ง BTS มาลงที่สถานีช่องนนทรีย์แล้วเดินมาถนนสีลมทางที่ไปวัดแขก เดินประมาณ 800 เมตรก็จะเห็นโรงแรมนารายณ์อยู่ด้านขวามือ
เริ่มต้นกันด้วยเมนูไฮไลท์ของที่นี่ ปูม้านึ่ง ปูม้าสดๆ นำมานึ่งร้อนๆ กลิ่นหอม เนื้อขาวนุ่ม สดได้ใจดีจริงๆ เชฟจะทุบเปลือกให้ และแจกให้คนละ 2 ตัวนะ แต่เดินไปเอาหลายรอบได้ ไม่มีจำกัดจำนวนนะจ๊ะ อิอิ
ปูม้านึ่งทุบเปลือกมาแล้วแบบนี้กินง่ายแน่นอน แต่ต้องใช้มือกินนะถึงจะอร่อย ฮ่าๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องมือเลอะ เพราะที่นี่เขามีอุปกรณ์ล้างมือให้เรียบร้อย หรือว่าเราจะเดินไปล้างความสะอาดอีกทีที่ห้องน้ำก็ได้เช่นกัน ในส่วนของน้ำจิ้มซีฟู้ดที่นี่ก็แซ่บ ไม่เผ็ดมาก ผู้ใหญ่กินได้ เด็กกินดี
ด้านหน้าของไลน์ปูม้านึ่งจะมีข้าวผัดปู และเป็ดพะโล้ รสชาติโอเคทั้งสองอย่างเลย ข้าวผัดมาได้ร่วน หอมกระทะ ส่วนเป็ดพะโล้ก็ทำมาดีนะ ไม่คาว เนื้อหนียวนิดนึงตามสไตล์เป็ด สองเมนูนี้เป็นเมนูที่ใครหลายคนมองข้าม เพราะจะทำให้ตัดกำลัง 5555
ต่อไปเป็น กุ้งแม่น้ำเผา ตัวขนาดกำลังดี ไม่เล็กจนเกินไป ตัดก้ามออกกันสดๆตรงนั้น แล้วนำมาย่าง ไลน์นี้ขายดีมากกกก พอๆกับปูม้านึ่งเลยล่ะ
พิมพ์ไปน้ำลายไหลไป น่ากินมาก เชฟจะแจกทีละ 2 ตัวเช่นเคย แต่ก็สามารถขอเพิ่มได้นะ
มันกุ้งเยิ้มๆ กุ้งคุณภาพค่อนข้างดีเลยล่ะ มีมันเกือบทุกตัวเลย ส่วนตัวจัดไปหลายรอบอยู่นะ ฮ่าาๆ
ข้างๆ ไลน์เดียวกันเป็นผัดผักสไตล์มองโกเลีย โดยที่เราจะต้องเลือกวัตถุดิบจำพวกเส้นและผักเอง หลังจากนั้นก็นำมาให้เชฟผัดให้ และด้านข้างจะมีหม้อนึ่งขนาดใหญ่ด้านในเป็นกระเพาะปลาเนื้อปู
กระเพาะปลาเนื้อปู รสชาติกลมกล่อม ให้เนื้อปูมาเยอะดีด้วย มั่นใจได้เลยว่าเป็นกระเพาะปลาแท้ๆ ถ้วยนี้ชอบๆ
สถานีต่อมา หอยนางรมสด เป็นหอยนางรมที่ส่งตรงมาจากสุราษฎร์ รับประความสดอร่อย ไม่แพ้ที่สุราษฏร์แน่นอน เชฟจะกะเทาะเปลือก ล้างน้ำ และเสิร์ฟให้ถึงมือ
ส่วนเรามีหน้าที่แค่ใส่เครื่องเคียงตามใจชอบ มีน้ำพริกเผา น้ำมะนาว กระถิน พริกสด น้ำจิ้มซีฟู้ด และหอมเจียว ใครชอบแบบไหนจัดการได้เองเลย
ของเราหน้าตาเป็นแบบนี้ น่ากินใช่ไหมล้าา หอยตัวใหญ่มาก ถือว่าสดเลยล่ะ แค่กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดเปล่าๆ ก็อร่อยแล้ว
บาร์ข้างๆ กันกับหอยนางรมก็จะเป็นเทมปุระ เมนูนี้ก็ขายดี เพราะกุ้งที่ใช้ ไม่ใช่ขนาดเล็กเลย ตัวใหญ่เต็มคำ
กุ้งขาวตัวใหญ่ แป้งหอม กรอบอร่อยดีมาก แถมไม่อมน้ำมันด้วยนะ
ที่นี่จะแบ่งไลน์อาหารเป็นซุ้มๆกันไป ไม่เยอะมาก แต่ซุ้มนึงจะมีอาหารหลายอย่างอยู่ ขนาดเราไปยังทานไม่ครบทุกซุ้มเลย ฮ่าๆๆ ด้านนี้เป็นโจ๊ก ซึ่งเชฟได้บอกว่าเป็นเมนูที่ขายดี ลูกค้าติดใจเป็นว่าเล่น ท็อปปิ้งก็มีเยอะ ทั้งเครื่องในหมู หมูสับ ไข่ไก่ ไข่เยี่ยวม้า และปาท่องโก๋ มีเครื่องปรุงและผักให้เติมด้านหน้า
โจ๊กเนื้อเนียนละเอียด หอมอร่อย ที่สำคัญคือเครื่องแน่น จัดเต็มมากจริงๆ เราอยากให้ใส่อะไร ก็บอกเชฟได้เลย ตักมาให้แบบไม่อั้นไม่งกเลยจริงๆ
โซนอินเตอร์อย่างสปาเก็ตตี้ก็มา เราสามารถเลือกเส้นได้ 2 แบบ คือ เส้นสปาเก็ตตี้กลมปกติ และเส้นแบนหมึกดำ (เฟตูชิเน) โดยเลือกผัดได้ 2 สไตล์ คือ คาโบนารา และผัดพริกแห้ง และตรงไลน์นี้จะมีซุปมันฝรั่ง และซุปกระดูกหมูแบบไทยๆ ให้ตักไปซดกันอีกด้วย
สปาเก็ตตี้ผัดใหม่ๆ กินตอนร้อนๆ นี่ยิ่งเพิ่มความอร่อยเพิ่มขึ้นไปอีก ขอแนะนำเส้นปกติเลือกผัดคาโบนารา ส่วนเส้นหมึกดำผัดแบบพริกแห้ง อร่อยเหาะ แต่ละอย่างก็จะใส่วัตถุดิบที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ให้มาเหมือนกัน คือ ใส่หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ลงไปด้วย !! รสชาติโดยรวมอร่อยเลยล่ะ ชอบผัดพริกแห้ง เผ็ดนิดๆ หอมกระเทียมและพริกแห้งดีนะ
ถัดมาเป็นซูชิและซาซิมิ ที่มีด้วยกัน 6 อย่าง คือ หมึกทาโกะ ปูอัด ปลามาร์ลิน ทูน่า และแซลมอน อีกทั้งเชฟยังเอาซาซิมิเหล่านี้นำไปทำซูชิ ข้าวปั้นแบบต่างๆ ให้ได้หยิบกันเองด้วย เอ้อ มีไข่หวานด้วยนะ
ซูชิมีหลายแบบจริงๆ ถึงแม้ปลาจะชิ้นไม่ใหญ่มาก แต่รสชาติและความสดใหม่อยู่ในเกณฑ์ดีเลย
ซาซิมิก็แล่มาชิ้นพอดีคำไม่ใหญ่มาก ถ้าใครชอบชิ้นใหญ่ๆ ก็รีเควสเชฟได้
มาดูมุมสเต็กกริลล์ๆ กันต่อ เนื้อที่นี่จะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป อย่างวันที่เราไปรีวิวก็จะมีแซลมมอน เนื้อวัว และเนื้อหมู จะทานอะไรก็บอกเชฟได้เลย สุกระดับไหน เดี๋ยวเชฟเค้าจัดให้เราได้
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของห้องอาหารระเบียงทอง คือ อาหารที่ปรุงสดใหม่ ร้อนๆ ไม่ใช่แค่นำมาอุ่นเฉยๆ แต่ปรุงแต่งกันสดใหม่ต่อหน้าเราเลย เราสามารถสั่งว่าต้องการแบบไหนได้ สเต็กจะมีซอสบาร์บีคิว ซอสพริกไทยดำ และอีกอย่างน่าจะเป็นซอสออกแนวฝรั่งๆ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นทาร์ทาร์ซอสนะ
ลองสั่งแซลมอนและสเต็กเนื้อมาชิมดู กินแบบเพียวๆ ไม่ต้องราสซอส แซลมอนสดมีความหอมมันในตัวมันเอง เช่นเดียวกันกับเนื้อ จะอออกเหนียวนิดนึง แต่ข้างในยังมีความฉ่ำของตัวเนื้ออยู่
ข้างสเต็กแอบมีก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ เกี๊ยวกุ้งแบบไทยๆ ด้วยแฮะ รสชาติดีเลยล่ะ เกี๊ยวผสมหมู กุ้ง และปู ส่วนหมูแดงที่โรงแรมก็ทำเองด้วย ใครกลัวว่ามาห้องอาหารนี้แล้วไม่อิ่ม คิดผิดแล้วล่ะ ไลน์อาหารเยอะจริงๆ
ยังไม่หมดแค่นี้ ขอต่อด้วยมุมสลัด คานาเป้ ของว่างต่างๆ เหมาะกับไว้ทานเรียกน้ำย่อย
จัดเรียงได้อย่างสวยงาม สามารถหยิบไปทานที่โต๊ะได้เลย
ซูมเข้าไปดูใกล้ๆ ที่เด็ดและคลาสสิคสุดก็เห็นจะเป็นเมี่ยงคำแบบไทยๆ
โซนนี้สลัดสำหรับคนรักสุขภาพเน้นๆ ผักสดกรอบ มีน้ำสลัดให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ สำหรับเราไม่ค่อยได้มาเดินโซนนี้เลย ส่วนใหญ่ไปปู กุ้งเผา ซูชิ อะไรแบบนี้ ฮ่าๆ
โซนนี้จะเป็นแซลมอนรมควัน โดยเชฟจะนำมาทำเป็น 2 แบบ 2 สไตล์
อย่างแรกเป็นสลัดผักแซลมอนรมควัน
อีกอย่างเป็นเครปแซลมอนรมควัน ด้านในจะมีผักอยู่หลายชนิด และราดด้วยซอสอโวคาโด
มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ใหม่ของ บุฟเฟ่ต์ระเบียงทอง แท่แด๊นนนนนนน บิงซู ของโปรดของใครหลายๆ คนนั่นเอง ทำกันชามต่อชาม โดยมีเชฟประจำการอยู่
ท็อปปิ้งจะแบ่งเป็น 2 สไตล์ คือ แบบไทยๆ พวกมัน ลอดช่อง เฉาก๊วย และอีกสไตล์จะเป็นช็อคโกแลต บราวนี่ มาร์ชแมลโลว์ ครีมชีส และมีซอสช็อคโกแลต สตรอเบอร์รี่ และนมข้นให้ราดออนท็อป
เพิ่งเคยเห็นเครื่องทำบิงซูครั้งแรก ตื่นเต้นมั่กกก จะร่วงลงมาเป็นเหมือนหิมะเลย บิงซูที่นี่จะมี 2 รสหลัก คือ นม และชาไทย โดยจะเปลี่ยนรสทุกเดือน ใครอยากกินรสไหน ลองโทรสอบถามก่อนก็ได้ว่าเดือนนี้ทำรสอะไร ฮ่าๆๆ
เสร็จแล้วก็จะได้หน้าตาประมาณนี้ เชฟจะส่งให้เราแล้วก็ตกแต่งเองได้ตามใจชอบ ใครอยากใส่อะไร จัดได้ไม่อั้น เต็มที่ ตัวแตกกันไปข้างนึง
บิงซูของเราก็หน้าตาประมาณนนี้ล่ะ เป็นไง… น่ากินไหมล่ะ เป็นสไตล์ไทยๆผสมกับฝรั่ง มีทั้งบราวนี่ ช็อคโกแลต เฉาก๊วย มาร์ชแมลโลว์ ราดด้วยนมข้นอีกที (มันจะเข้ากันมั้ยเนี่ย ใส่ซะเยอะเลย ฮ่าๆๆ)
บิงซูนุ่มมาก เอาเข้าปากนี่หายวับละลายทันที ถือว่าเป็นบิงซูที่ดีนะ ส่วนรสชาติจะไม่หวานมาก หอมกลิ่นชาไทย เสียดายไม่มีรสนม อยากลองด้วย แง้ TT
โซนของหวานจัดเป็นถ้วยเล็กๆ คล้ายกับไลน์ก่อนหน้านี้ จัดเป็นถ้วยแบบนี้ดีมาก จะได้ลองหลายๆ อย่าง แล้วก็ไม่ทำให้อิ่มจนเกินไปด้วย
เค้กโรล ชีสเค้ก เค้กช็อคโกแลต ฝองทอง ลูกชุบ มูส เอแคลร์ เยอะจริง นี่ขนาดยังบอกไม่หมดนะเนี่ย
คัพเค้ก ไอศครีมเนสท์เล่ คาราเมลคัสตาร์ด สาคูบัวลอย และเต้าฮวย
ผลไม้สดก็มีเช่นกัน มะละกอ สัปปะรด แตงโม และฝรั่ง
เกือบลืมไปเลย ไลน์น้ำก็จะมีน้ำผลไม้ ชา น้ำอัดลม และกาแฟ
มาที่นี่ต้องซีฟู้ดเน้นๆ ปูม้า กุ้งแม่น้ำเผา และหอยนางรม
สาคูบัวลอย เมนูธรรมดาแต่ทำเอาเราติดใจมาก หอม กลมกล่อม คือ ไม่หวานจนเกินไปอะ อร่อยมากๆ
บิงซูก็เด็ดไม่แพ้กัน ถึงขนาดต้องไปต่อแถวซ้ำอีก 2 รอบ ยิ่งถ้าใส่ครีมชีสเยอะๆ นะ ฟินลืมห่วงยางที่ท้องไปเลยล่ะ
จุดเด่นของ บุฟเฟ่ต์ระเบียงทอง
- ซีฟู้ดสดใหม่หลากหลายทั้งปูม้านึ่ง กุ้งแม่น้ำเผา หอยนางรมสุราษฎร์
- เป็นห้องอาหารนานาชาติที่แท้จริง มีไลน์อาหารและของหวานเยอะมากทั้งไทย ญี่ปุ่น ฝรั่ง
- นั่งยาวๆ ได้ไม่จำกัดเวลา ห้องอาหารกว้างขวาง พื้นที่เยอะ จัดไลน์อาหารได้ดูดี บรรยากาศสวยงามน่านั่ง
- อาหารปรุงสุกใหม่สดๆ ร้อนๆ สามารถออร์เดอร์ตามความชอบของตัวเองได้
- อาหารเติมใหม่ตลอด แต่อาจมีบางช่วงที่ต้องรอนิดนึง
- บิงซู DIY อร่อยได้ด้วยมือคุณเอง ใครชอบบิงซูห้ามพลาดเด็ดขาด
ข้อสังเกต
- บางช่วงมีทัวร์ลง อาจจะต้องรอเชฟปรุงอาหารสักพักนึง
- ราคา 850 ต่อคน อาจจะดูแรงไปนิดสำหรับบางคน แต่ถ้าได้อ่านรีวิว และไปสัมผัสด้วยตัวเองแล้วจะรู้เลยว่าคุ้มค่าจริงๆ
บทสรุปรายละเอียดห้องอาหารระเบียงทอง โรงแรมนารายณ์
- ไฮไลท์: ปูม้านึ่ง / กุ้งแม่น้ำเผา / หอยนางรมสดจากสุราษฎร์ธานี / โจ๊ก / ซูชิ / สเต็ก / บิงซู
- ราคา: 850 บาทต่อคน
- พิกัด: โรงแรมนารายณ์ ถนนสีลม ไปไม่ถูกจิ้มนี้ >> https://goo.gl/maps/ZT6KbNuJrYw
- เบอร์โทร: 02-635-7043
- เวลาเปิด – ปิด: 11:30 – 14:30 และ 18:00 – 22:30 (แนะนำว่าไปรอบเย็น เพราะคุ้มกว่า ได้นั่งยาวๆ โทรจองโต๊ะด้วยก็ดี บอกพนง.เอาที่นั่งใกล้ๆบาร์อาหาร อิอิ)
- Wi-Fi: ของโรงแรม ไม่แน่ใจว่าขอได้รึเปล่าน้า
- ที่จอดรถ: จอดของโรงแรมแล้วนำมาแสตมป์บัตรได้
- รถสาธารณะ: BTS ลงสถานีช่องนนทรีแล้วเดินย้อนไปทางบางรัก (เดินฝั่งตรงข้ามกับที่ไปถนนพระราม 4) ขอเตือนว่าเดินไกลอยู่เหมือนกัน ประมาณ 800 เมตรได้ หรือจะนั่งแท็กซี่ไปน่าจะไม่เกิน 40 บาท ถ้ารถไม่ติดนะ
โปรโมชั่นเด็ด:
Rewards Card Promotion บัตรสะสมแต้ม ทานมาก ยิ่งได้มาก แจกฟรีไม่อั้น ทานอาหารครบทุก 500 บาท รับแสตมป์ 1 ดวง สะสมครบได้รับส่วนลด 100 บาท หรือบัตรรับประทานอาหารฟรี วันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2559 (เฉพาะมื้อกลางวัน มื้อเย็น และลูกค้าสัมมนาไม่สามารถร่วมรายการได้)
เงื่อนไข
- เมื่อทานอาหารครบทุก 500 บาท จะได้รับการประทับแสตมป์ 1 ดวง
- ไม่สามารถใช้ร่วมกับโปรโมชั่นอื่นได้
- ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่โรงแรมกำหนด
- สิทธิ์ที่แลกรับสามารถนำมาใช้ได้ในครั้งต่อไป
- สามารถเลือกรับสิทธิ์ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง
- ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- ของรางวัลมีจำนวนจำกัด
วันสะสมและใช้แสตมป์ตั้งแต่ 25 เมษายน – 31 สิงหาคม 2559
ขั้นตอนการแลกรับรางวัล
- เมื่อลูกค้าได้ตราประทับครบ 5 ดวง จะได้รับบัตรส่วนลด 100 บาท ใช้ได้ทุกห้องอาหาร
- เมื่อลูกค้าได้ตราประทับครบ 10 ดวง จะได้รับ Gift Voucher ห้องอาหารระเบียงทองมื้อกลางวัน 1 ใบ หรือ ห้องอาหารทริปเปิลทู มื้อเย็น 1 ใบ (ให้เลือกรับอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- เมื่อลูกค้าได้ตราประทับครบ 15 ดวง จะได้รับ Gift Voucher ห้องอาหารระเบียงทองมื้อเย็น 1 ใบ
*หมายเหตุ: หากลูกค้ารับรางวัลใดรางวัลหนึ่งไปแล้วไม่สามารถรับได้อีก เช่น ถ้าลูกค้าสะสมครบ 5 ดวง และนำมารับรางวัลไปแล้ว ลูกค้าจะไม่สามารถสะสมต่อเพื่อมารับรางวัลต่อไปเมื่อครบ 10 ดวงได้ หากลูกค้าอยากได้รางวัลในช่องครบ 10 ดวง ให้สะสมให้ครบ 10 ดวงแล้วนำมาแลก
บุฟเฟ่ต์ระเบียงทอง เป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ไลน์อาหารละลานตา ปรุงสดใหม่ทุกจาน บรรยากาศพรีเมี่ยม อร่อยคุ้มค่าหัวแน่นอน
5 thoughts on “ห้องอาหารระเบียงทอง บุฟเฟ่ต์นานาชาติ จัดหนัก จัดเต็ม @ โรงแรมนารายณ์”
Comments are closed.